10 ข้อเท็จจริงที่น่าตกใจ Wi-Fi อันตรายต่อสุขภาพ
Blog นี้ แอร์ได้แปล “10 Shocking Facts about the Health Dangers of Wi-Fi” จากเวปไซด์ www.globalhealingcenter.com Published on April 2, 2014 Last Updated on April 7, 2014 ซึ่งมีข้อมูลอ้างอิงที่พอจะน่าเชื่อถือได้มาให้อ่านเป็นความรู้กันค่ะ ในต่างประเทศบางประเทศเค้าเริ่มตื่นตัวศึกษากันบ้างแล้วในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่มีมาตราการเพื่อความปลอดภัยออกมาอย่างจริงจัง คงเป็นเพราะยังไม่มีใครวิจัยหรือทดลองกับ”คน”แบบเป็นเรื่องเป็นราวซักที มันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ สุขภาพของเรา เราควรใส่ใจ “รับข้อมูลอีกด้าน” ไว้บ้าง แต่ผลกระทบบางเรื่อง เช่น ทำให้นอนไม่หลับอันนี้น่าจะจริงมาก และการใช้งานระยะยาวมันน่าจะไม่ดีอยู่แล้วละ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็อ่านเอาไว้ละกันค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ
ปล. อ่านแล้ว อย่าลืมเข้าไปอ่าน References นะคะ (English ล้วนๆ ไม่ได้แปลให้ค่ะ) เดี๋ยวจะมาหาว่าเอาข้อมูลมั่วๆ มาแปล
1. ก่อให้เกิดอาการนอนไม่หลับ
มีข้อมูลจากการศึกษามากมายว่าการนอนใกล้โทรศัพท์ในบ้านที่มีเครื่อง Wi-Fi ในอาคารอพาร์ทเมนที่มีหลายสัญญาณ Wi-Fi ตลอดจนวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว สามารถสร้างปัญหาการนอนไม่หลับเรื้อรัง เรียกได้ว่าเป็นมลพิษ Wi-Fi ก็ว่าได้ ทำให้ความสามารถในการนอนหลับของคุณลดลง แถมยังเป็นเป็นสาเหตุของภาวะซึมเศร้าจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องอยู่กับตัวเองเป็นเวลานานและความดันโลหิตสูงที่เป็นสาเหตุเชื่อมโยงกับการนอนหลับไม่เพียงพออีกด้วย
2. สร้างความเสียหายต่อพัฒนาการเด็กในเล็ก
เมื่อร่างกายได้สัมผัสรับรังสีคลื่นความถี่จาก Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ คลื่นความถี่เหล่านั้นสามารถส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาเซลล์ของทารกในครรภ์และต่อพัฒนาการเรียนรู้ในเด็กเล็ก ได้มีการศึกษาวิจัยและทดลองในสัตว์ขึ้นในปี 2004 จากการศึกษาบ่งบอกว่าคลื่นความถี่จาก Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้การพัฒนาการของไตล่าช้า จากการค้นพบนี้ยังได้รับการสนับสนุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องในปี 2009 มาโดยตลอดโดยชาวออสเตรีย→4,5
ตอนนี้โรงเรียนอนุบาลบางแห่งในต่างประเทศได้มีการไม่ให้ใช้ Wi-Fi หรือติดตั้ง Wi-Fi routers ไว้ใกล้ห้องหรือชั้นเรียนแล้ว www.safeinschool.org ⇒ Teachers’ Unions in Germany, UK, USA and Canada Who Have Done Their Research Do Not Support WiFi in Schools
3. ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเซลล์
ได้มีการทำการทดลอง ของกลุ่มนักเรียน 9 graders ในเดนมาร์ก โดยทำการทดลองนอนกับโทรศัพท์มือถือของพวกเขาโดยนำมือถือมาวางไว้ใกล้หัวของพวกเขาระหว่างนอนหลับ จากการทดลองค้นพบว่า การวางมือถือไว้ใกล้ตัว ทำให้พวกเขาประสบปัญหาในการนอนไม่หลับมากขึ้น และหลังจากนั้นพวกเขาดำเนินการทดลองอีกครั้งเพื่อทดสอบผลกระทบของ Wi-Fi routers ในสวนทดลอง โดย ชุดที่หนึ่ง พืชที่ถูกปลูกจะอยู่ในห้องพักที่ไม่มี Wi-Fi routers และเป็นห้องพักที่ไม่ถูกคลื่น Wi-Fi รบกวน และชุดที่สองโดยปลูกพืชอยู่ติดกับ 2 Wi-Fi routers เครื่องหนึ่งปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ปกติ และอีกเครื่องเซตค่าคลื่นความถี่ที่ปล่อยออกมาเท่ากับจำนวนเดียวกันกับรังสีที่โทรศัพท์มือถือ ผลที่ได้จากการทดลองคือ พืชที่ใกล้ Wi-Fi routers ที่สุดไม่ได้เติบโต
4. ทำลายการทำงานของสมอง
จากการทดลองของนักเรียนในเดนมาร์ก ส่งผลให้นักวิทยาศาตร์ตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มมองไปถึงผลกระทบของคลื่นความถี่ 4G ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง ทดลองโดยใช้เทคโนโลยี MRI จากการวิจัยที่ดำเนินการเพียงแค่ปีที่ผ่านมา พบว่าการสัมผัสกับรังสีหรือคลื่นความถี่ระดับ 4G มีผลทำให้การทำงานของสมองลดลง
5. ลดการทำงานของสมองในเพศหญิง
ได้มีการทำการทดลองของกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 30 คน , เป็นชาย 15 คนและหญิง 15 คน, โดยเข้ารับการทดสอบหน่วยความจำแบบง่ายๆ ครั้งแรก ทั้งกลุ่มได้รับการทดสอบโดยไม่สัมผัสกับรังสี Wi-Fi ใด ๆ ผลการทดลองที่ได้ “ไม่มีปัญหา” จากนั้นทั้งกลุ่มพวกเขาได้สัมผัสถึงคลื่น 2.4 GHz และมี Wi-Fi เชื่อมต่อ ใช่เวลาทดลองประมาณ 45 นาที จากการทดสอบพบว่าการทำงานของสมองที่วัดได้ ผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนกว่าผู้ชายในการทำงานของสมองและระดับพลังงาน
6. คุณภาพของสเปิร์มลดลง
เป็นที่รู้ๆ กันมาเป็นเวลานานแล้วว่าความร้อนที่เกิดจากแล็ปท็อปฆ่าสเปิร์มได้ จากการวิจัยพบว่าการสัมผัสกับความถี่ Wi-Fi ลดการเคลื่อนไหวการแหวกว่ายของสเปิร์มอสุจิและพบว่าทำให้อสุจิมีปัญหา DNA fragmentation คือมีการแตกหักของสารพันธุกรรมในส่วนหัวของตัวอสุจิ เมื่อนำไปผสมกับไข่ จะทำให้ได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพไม่ดี จึงทำให้อัตราการฝังตัวลดลง ได้มีการทดสอบทั้งมนุษย์และสัตว์ ได้รับการยืนยันแล้วว่าส่งผลกระทบต่อสเปิร์ม
7. ส่งผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์
ผลของการศึกษาวิจัย ผลกระทบที่เกิดไม่ใช่แค่สเปิร์มเท่านั้น แต่การการทดลองทั้งในคนและสัตว์แสดงให้เห็นว่าความถี่ไร้สาย เจ้า Wi-Fi มีผลกระทบต่อการพัฒนาการของไข่ในรังไข่และการฝังตัวของไข่
“Karolinska” สถาบันในสวีเดนได้ออกคำเตือนในปี 2011 ในเรื่องนี้ โดยระบุไว้ว่า:
- หญิงที่ตั้งครรภ์ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไร้สาย (wireless devices) ที่ตัวเองและควรห่างไกลจากผู้ใช้คนอื่น ๆ
- ในปัจจุบันที่ สหรัฐฯ และแคนาดา มาตรฐานสำหรับความถี่ คลื่นวิทยุและรังสีไมโครเวฟจากเทคโนโลยีไร้สายนั้น ยังควบคุมได้ไม่เพียงพอ และในเรื่องมาตรฐานของความปลอดภัยของพัฒนาการในทารกในครรภ์จากผลกระทบของเทคโนโลยีไม่มีมาตรการเท่าที่ควร
8. กระตุ้นให้เกิดความเครียดและหัวใจเต้นผิดจังหวะ
จากการศึกษาที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ 69 วิจัย รายงานว่า จำนวนของคนที่เข้ารับการทดลองกับคลื่นความถี่เหล่านี้มีการตอบสนองทางกายภาพจริง สิ่งที่ตอบสนองทางกายภาพในการทดลองนี้คือ อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น – รวมไปถึงอัตราการเต้นหัวใจของบุคคลภายใต้ความเครียด
9. อาจก่อให้เกิดมะเร็ง??
เราไม่สามารถละเลยที่ความคิดที่ว่าคลื่นเหล่านี้อาจก่อให้เกิดมะเร็ง จากการทดลองในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าการสัมผัสกับรังสี หรือคลื่นเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาเนื้องอก ในขณะที่การศึกษาของมนุษย์ยังมีรายงานค่อนข้างน้อยและแต่ก็มีกรณีศึกษาเพิ่มขึ้นมากมาย มีตัวอย่างของคนไข้รายหนึ่ง หนึ่งในกรณีดังกล่าวเป็นผู้หญิง 21 ปี เธอเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งกรณีนี้ไม่ซ้ำใครคือประวัติครอบครัวของเธอไม่มีใครเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนเลย ในเคสคนไข้รายนี้มีข้อสงสัยที่ว่า เธอได้รับการพัฒนาเนื้องอกจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด จากการที่เธอเก็บโทรศัพท์มือถือของเธอไว้ในชุดชั้นในของเธอ ก็ยังเป็นข้อสงสัยกันอยู่ว่าคลื่นเหล่านี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาเนื้องอกก็เป็นได้
ในปี 2011 องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การระหว่างประเทศได้วิจัยในเรื่องมะเร็ง (IARC) กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ คลื่นความถี่ต่างๆ เหล่านี้ ผลของการทดลองวิจัยพบว่า “เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์” – และตอนนี้เทคโนโลยีไร้สายถือว่าเป็นตัวแทนก่อให้เกิดมะเร็งที่เป็นไปได้อย่างมาก เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตไร้สายได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในระยะยาว
10. วิธีที่เราสามารถป้องกันตัวเองจากคลื่นเหล่านี้
จำกัด ปิด-เปิดรับ และอยู่อย่างมีสุขภาพที่ดี: มันค่อนข้างยากนิดหนึ่ง ที่จะหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด วิธีที่จะทำได้คือวางโทรศัพท์มือถือแล็ปท็อปและแท็บเล็ตให้ไกลจากร่างกายคุณ หลังจากที่ไม่ใช้มันแล้วก็ปิดการใช้งาน รวมทั้ง wireless router ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตอนเข้านอน ไม่ควรวางมือถือไว้ใกล้ตัว ใกล้ศรีษะ หรือวางใต้หมอน พยายามไม่ใช้งานเป็นเวลานาน
References:
1. Fields, R. Douglas. Mind Control by Cell Phone. May 7, 2008. (last accessed 2014-04-01)
2. Hung CS, Anderson C, Horne JA, McEvoy P. Mobile phone ‘talk-mode’ signal delays EEG-determined sleep onset. Neurosci Lett. 2007 Jun 21;421(1):82-6. Epub 2007 May 24.
3. Cunnington D, Junge MF, Fernando AT. Insomnia: prevalence, consequences and effective treatment. Med J Aust. 2013 Oct 21;199(8):S36-40.
4. Pyrpasopoulou A, Kotoula V, Cheva A, Hytiroglou P, Nikolakaki E, Magras IN, Xenos TD, Tsiboukis TD, Karkavelas G. Bone morphogenetic protein expression in newborn rat kidneys after prenatal exposure to radiofrequency radiation. Bioelectromagnetics. 2004 Apr;25(3):216-27.
5. AUVA REPORT: Nonthermal Effects Confirmed; Exposure Limits Challenged; Precaution Demanded. Edition July 21, 2009. (last accessed 2014-04-01)
6. Bohn, Mathias. Student Science Experiment Finds Plants Won’t Grow Near Wi-fi Router. (last accessed 2014-04-01)
7. Lv B, Chen Z, Wu T, Shao Q, Yan D, Ma L, Lu K, Xie Y. The alteration of spontaneous low frequency oscillations caused by acute electromagnetic fields exposure. Clin Neurophysiol. 2013 Sep 4. pii: S1388-2457(13)00976-0. doi: 10.1016/j.clinph.2013.07.018.
8. Maganioti A. E. et al., 2010. Wi-Fi electromagnetic fields exert gender related alterations on EEG. 6th International Workshop on Biological Effects of Electromagnetic fields. (last accessed 2014-04-01)
9. Avendaño C. et al. Use of laptop computers connected to internet through Wi-Fi decreases human sperm motility and increases sperm DNA fragmentation. Fertility and Sterility 97(1): 39-45.
10. Atasoy H.I. et al. Immunohistopathologic demonstration of deleterious effects on growing rat testes of radiofrequency waves emitted from conventional Wi-Fi devices.Journal of Pediatric Urology 9(2): 223-229.
11. Kesari KK, Behari J. Microwave exposure affecting reproductive system in male rats.Appl Biochem Biotechnol. 2010 Sep;162(2):416-28. doi: 10.1007/s12010-009-8722-9. Epub 2009 Sep 19.
12. Shahin S, Singh VP, Shukla RK, Dhawan A, Gangwar RK, Singh SP, Chaturvedi CM. 2.45 GHz microwave irradiation-induced oxidative stress affects implantation or pregnancy in mice, Mus musculus. Appl Biochem Biotechnol. 2013 Mar;169(5):1727-51. doi: 10.1007/s12010-012-0079-9. Epub 2013 Jan 22.
13. Karolinska Institute Department of Neuroscience, Stockholm, Sweden. LATEST WARNING: Wi-Fi Dangerous to Children and Pregnant Women – Must Read! February 3, 2011. (last accessed 2014-04-01)
14. Havas M. and Marrongelle J. Replication of heart rate variability provocation study with 2.45GHz cordless phone confirms original findings. Electromagn Biol Med 32(2): 253-266.
15. KTVU.com. Doctors warn of breast-cancer link to keeping cell phone in bra. Posted November 13, 2012. (last accessed 2014-04-01)
16. Aynali G. et al., Modulation of wireless (2.45 GHz)-induced oxidative toxicity in laryngotracheal mucosa of rat by melatonin. Eur Arch Otorhinolaryngol 270(5): 1695-1700.
17. Nazrolu M. et al. Melatonin modulates wireless (2.45 GHz)-induced oxidative injury through TRPM2 and voltage gated Ca(2+) channels in brain and dorsal root ganglion in rat. Physiol Behav. 105(3): 683-92.
18. Oksay T. et al. Protective effects of melatonin against oxidative injury in rat testis induced by wireless (2.45 GHz) devices. Andrologia doi: 10.1111/and.12044.
19. Gumral N. et al. Effects of selenium and L-carnitine on oxidative stress in blood of rat induced by 2.45-GHz radiation from wireless devices. Biol Trace Elem Res. 132(1-3): 153-163.
20. Nazirolu M. and Gumral. Modulator effects of L-carnitine and selenium on wireless devices (2.45 GHz)-induced oxidative stress and electroencephalography records in brain of rat. Int J Radiat Biol. 85(8): 680-689.
[…] Cr. thelovelyair […]
[…] Cr. thelovelyair […]
Oh!
Good