เลี้ยงลูก 10 ปีสู่ยอด Working MOM
เรื่องเล่านี้แม่แอร์อ่านแล้วรู้สึกทึ่งในความยอดเยี่ยมของการเป็นแม่ จึงขอนำมาฝากแม่ ๆ ทั้งแม่เลี้ยงลูกเต็มเวลาและแม่ทำงานเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นแม่ที่เป็น Working MOM ทุกคนค่ะ
คุณค่าของแม่เต็มเวลา
ในโลกที่เราประเมินคุณค่าของคนด้วยการทำงานหาเงิน หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเลี้ยงลูกอยู่บ้านดูไม่เป็นหญิงเก่งไม่เท่ อยากให้เปลี่ยนความคิดค่ะ ตั้งแต่แม่แอร์ทำงานอะไรมา งานเป็นแม่น่ะยากที่สุด การเลี้ยงลูกเปลี่ยนเราเป็นคนที่อดทนขึ้น เอาใจใส่ และเสียสละมากขึ้น ฯลฯ อาชีพแม่เป็นงานมีคุณค่าเพราะเรากำลังสร้างคนคนนึงเชียวนะ ให้เค้าเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
อยู่บ้านเลี้ยงลูก 10 ปีดีตรงนี้ !
ให้ทายว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเป็นแม่เต็มเวลาอยู่บ้านเลี้ยงลูก 10 ปีเต็ม ล้าหลัง ? ทำงานไม่ได้ ? เฉื่อยชา ? ผิดจ้า
คุณ Martha Ivester เคยทำงานกับบริษัทท็อป ๆ หลายแห่งรวมทั้ง Nike และ Microsoft หลังจากทิ้งบทบาทสาวออฟฟิศมาเลี้ยงลูกเธอบอกอย่างภาคภูมิใจว่าการเลี้ยงลูก 10 ปีดีต่อตัวเธอเอง ดีต่อครอบครัว แล้วยังช่วยให้เธอกลับมาทำงานได้ดีขึ้น เป็นพนักงานคุณภาพ สามารถสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง บริษัทแรกเป็นงานบันเทิงระดับโลกอย่าง CCA มีดาราดังในสังกัดมากมาย หลังจากนั้นก็ได้รับการทาบทามให้มาทำงานกับ Google ปัจจุบันเธอเป็น Head of Ads Marketing Northern Europe / Country Marketing Manager Denmark ของ Google
เลี้ยงลูกพัฒนาฝีมือแม่
คุณแม่ Martha บอกว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การหยุดทำงาน แต่ทุกชั่วโมงเป็นการพัฒนาทักษะทำให้เธอมีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพราะต้องบริหารจัดการหลายสิ่งหลายอย่าง เลี้ยงลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือปลอบลูกตอนโยเยก็เป็นการใช้จิตวิทยาเช่นเดียวกับการบริหารพนักงานในทีมนี่ละ
3 ทักษะสร้างแม่เก่งงาน
การเลี้ยงลูกทำให้คุณแม่ Martha ได้พัฒนาทักษะถึง 3 ข้อเชียวนะ
1.ห่วงใยคนอื่น เพราะมีลูกนี่แหละแม่แอร์ว่ามันกระตุ้นต่อมห่วงใยของเรา ใส่ใจว่าเค้าสบายดีมีความสุขมั้ย เจ็บป่วยก็กังวล ลูกรับรู้ถึงความห่วงใยของเราค่ะ พอคุณ Martha นำสิ่งนี้ไปใช้กับลูกน้องของเธอ เค้าก็รับรู้ได้เช่นกัน ความเป็นทีมย่อมเกิดได้แน่นอน
2.การสร้างความสัมพันธ์ เป็นแม่ก็ต้องฝึกสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกนะ บางทีใช้ไม้อ่อน บางทีใช้ไม้แข็ง แต่ต้องให้ลูกรู้ว่าแม่รัก แม่ใส่ใจเขาจริง ๆ สร้างความผูกพันระหว่างกัน การทำงานก็ต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่ดี 10 ปีแม่ฝึกมาเยอะ
3.การสื่อสาร เป็นแม่ได้ใช้เทคนิคการสื่อสารทุกรูปแบบกับลูก ชัดเจน ไม่บ่นไม่ว่าเยอะ งดดราม่า แล้วยังต้องเตือนใจตัวเองไว้ตลอดว่าเราต้องสื่อสารเชิงบวกด้วยนะ กับการทำงานก็ได้ใช้เต็ม ๆ
คุณ Martha ว่าประสบการณ์การเลี้ยงลูกทำให้เธอมีทักษะเหล่านี้เพื่อเป็นทั้งลูกจ้าง ผู้นำ และผู้จัดการที่มีประสิทธิภาพ
เพราะฉะนั้นแม่เลี้ยงลูกเต็มเวลาจงภูมิใจในงานที่ทำ แม่กำลังฝึกทักษะอันมีค่าเชียวนะ หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นแรงบันดาลใจให้แม่ ๆ ทุกคนค่ะ
Comments are closed.