วางแผนการเงินเพื่อลูกแบบซิงเกิ้ลมัม

ทุกวันนี้ซิงเกิ้ลมัมมีมากขึ้นเรื่อยๆ พบเห็นได้ทั่วไป ถึงแม้ผู้หญิงเราจะมีความสามารถมากขึ้น พึ่งพาตัวเองได้ดีทีเดียวละ ความสามารถในการหารายได้ไม่แพ้ผู้ชาย แต่แม่แอร์ว่าการต้องดูแลลูกเพียงลำพังต้องใช้พลังทั้งแรงกายและแรงใจมิใช่น้อย

single-mom-1

ซิลเกิ้ลมัมจะสตรองต้องวางแผน 

การเก็บออมเพื่อให้ลูกมีใช้โดยเฉพาะการศึกษาซึ่งเป็นรายจ่ายที่สำคัญอันหมายถึงอนาคตของลูกไปจนถึงตอนที่เขาโตเรียนจบปริญญาตรี คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ

รู้รายได้เช็กรายจ่าย 

คุณแม่ทำงานประจำมีรายได้แน่นอนจำนวนหนึ่งเป็นตัวเลขในใจที่จำแม่นอยู่แล้วถ้าทำงานอิสระหรือค้าขายควรทราบรายรับของตัวเองอาจจดรวบรวมว่ามีรายรับแต่ละเดือนเท่าไหร่ต่อปีเท่าไหร่ส่วนรายจ่ายยิ่งน่าจดเพราะเมื่อเช็กดูจะทำให้ทราบว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องไม่จำเป็นบ้างหรือเปล่ามีตัวเลขฟ้องมาก็สามารถตัดรายจ่ายได้ถูกจุดเพราะฉะนั้นการทำบัญชีจึงมีประโยชน์มาก

single-mom-5

วางแผนเก็บเงิน

ข้อนี้เป็นงานหลักของคุณแม่เลยละ โดยเฉพาะการวางแผนเก็บเงินเพื่อการศึกษาจะทำอย่างไรให้มั่นใจได้ว่าจะมีทุนให้เขาต่อเนื่องไปจนเรียนจบปริญญาตรี

คุณแม่จะเลือกส่งลูกเรียนโรงเรียนรัฐบาล เอกชน อินเตอร์ หรือส่งเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของรัฐบาล เอกชน หรือส่งไปเมืองนอก ขึ้นอยู่กับกำลังของคุณแม่เลยค่ะ ลองคำนวณดูว่าจะต้องหาเงินเพื่อจ่ายค่าเทอมลูกเท่าไหร่ สมมติว่าตั้งแต่เตรียมอนุบาล จนถึงปริญญาตรี คิดแยกไว้เป็นปีว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างรวมแล้วเท่าไหร่ สอบถามเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างดูก่อนเพราะแต่ละที่ค่าใช้จ่ายต่างกัน ถ้าใครคำนวณเห็นตัวเลขรวมแล้วขึ้นหลักแสนหลักล้านไม่ต้องตกใจนะคะ จ่ายน่ะจ่ายจริงแต่ว่าเราทยอยเก็บออมใช้เวลาสะสมไปเรื่อยๆ ไม่ใช่จ่ายโครมเดียวก็ไม่หนักหนาขนาดน้าน

single-mom-2

การเก็บเงินแบบเรียบง่ายที่สุดคือเปิดบัญชีฝากประจำกับฝากออมทรัพย์ไว้ ซึ่งก็ดีค่ะแต่ถ้าวางแผนเก็บเงินก็จะช่วยให้เราเก็บเงินได้อย่างเป็นระบบแล้วไม่เผลอถอนออกมาใช้เกินจำเป็น เท่าที่แม่แอร์ศึกษาหาข้อมูลมา การเก็บเงินออมเป็น 3 ระยะ ซึ่งแบ่งออกเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวน่าสนใจทีเดียวละ เพราะการแบ่งเก็บเงินสำหรับจุดประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ว่าจะเก็บสะสมเงินนั้นไว้ใช้ทำอะไร เราจะรู้ว่าจะต้องกันเงินไว้เท่าไหร่ และไม่ถอนเงินจากกองนั้นมาใช้

single-mom-3

แบ่งเงินเก็บ 3 ระยะเพื่อค่าเทอมลูกจนจบปริญญาตรี 

เก็บเงินระยะสั้น เป็นการเก็บเงินช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 2 ปี ฝากสะสมไว้เพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการใช้เงินก้อนนั้น หรืออาจเก็บไว้เพื่อเป็นเงินสำรองฉุกเฉินยามจำเป็นขึ้นมาจะได้มีใช้ อย่างนี้ต้องเก็บไว้ในที่ ๆ ถอนง่ายใช้สะดวก เช่น ฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำ ซึ่งเดี๋ยวนี้ธนาคารออกแพกเกจเงินฝากแบบต่าง ๆ ลองสอบถามรายละเอียดบัญชีประเภทออมเพื่อลูกหรือการศึกษาดูค่ะ การเก็บเงินวิธีนี้ได้ดอกเบี้ยน้อย แต่ข้อดีคือความเสี่ยงน้อยสามารถถอนออกมาใช้ได้ในเวลาที่ต้องการ

เก็บเงินระยะกลาง ลูกยังเล็กต้องดูแลกันอีกยาว Single Mom จำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้เพื่อลูกการศึกษาของลูกในอนาคต เงินเก็บระยะกลางคือระยะเวลาในช่วง 2-10 ปี ถ้าลูกยังเล็ก สมมติว่า 1 ขวบนับเวลาก็จะพอดีสำหรับเก็บเป็นค่าเทอมตั้งแต่ช่วงอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย อาจเก็บเงินในรูปแบบที่ทุกคนน่าจะรู้จักดีอย่างซื้อสลากออมสิน หรือต้องศึกษาเพิ่มเติมหน่อยถ้าจะเก็บเงินในรูปแบบของตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล  หุ้นกู้เอกชน LTF ซึ่งมักจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีถึงจะนำเงินมาใช้ได้ ข้อดีคือให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเข้าบัญชีธนาคาร แต่ความเสี่ยงก็สูงขึ้นมาอยู่ในระดับปานกลางด้วยเช่นกันค่ะ เหมาะกับเก็บเงินเพื่อการศึกษาตรงผลตอบแทนสูงหน่อยไล่ทันค่าเทอมที่เพิ่มขึ้นทุกปีหรือบางแห่งที่ขึ้นทุกเทอม

เก็บเงินระยะยาว ก้อนนี้เป็นเงินเก็บยาวๆ เลยค่ะ 10 ปีขึ้นไปสำหรับให้ลูกเรียนปริญญาตรีซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง แล้วอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มมาเพียบ ค่าขนมก็ต้องเพิ่มกว่าตอนอยู่โรงเรียน ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดของลูก หรือเรียนไกลก็ต้องจ่ายค่าเช่าหอพักด้วย คุณแม่อาจต้องศึกษาเรื่องการซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีไม่ใช่ประเภทอ่อนไหวหรือมานั่งเล่นรายวัน ซื้อคอนโดซื้อบ้านเพื่อการลงทุน ซื้อทอง หรือทำประกันออมทรัพย์ระยะยาว ฯลฯ เมื่อถึงเวลาค่อยนำเงินก้อนโตออกมาใช้ ข้อดีคือผลตอบแทนสูงกว่าระยะสั้นและระยะกลางแต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามมา ควรศึกษาให้ดีๆ ก่อนนะคะ

single-mom-6

ทำประกันชีวิต 

การทำประกันประกันชีวิตมีประโยชน์ เวลาเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุต้องหมดเงินก้อนโตไปกับค่ารักษาพยาบาล และระหว่างนอนพักรักษาตัวอาจขาดรายได้ ถ้าต้องดึงเงินเก็บมาใช้อาจต้องกังวลกับการศึกษาของลูกในอนาคต การทำประกันมีประโยชน์ตรงนี้ค่ะ หรือกรณีร้ายแรงอย่างเสียชีวิตก็จะมีเงินก้อนไว้ให้ลูก ข้อนี้เราคิดเผื่อแบบเซฟสุดๆ ไว้ก่อน

single-mom-4

หาเงินเพิ่ม 

คุณแม่ลองดูความถนัดของตัวเองว่าจะนำมาหารายได้เพิ่ม ใช้ความสามารถในการทำงานหรือความรู้ เช่น ภาษา คณิตศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี สอนได้มั้ย มีฝีมือทำอาหารทำขนม ค้าขายออนไลน์ หรืองานอดิเรกที่ชอบนำมาทำเงินได้บ้างหรือเปล่า เพื่อมาช่วยเสริมความมั่นคงในอนาคตของลูกอีกทางหนึ่งได้

ซิงเกิ้ลมัมยุคนี้ต้องแข็งแกร่งค่ะ เริ่มต้นที่สร้างความสตรองของใจก่อน ก็จะมีสติและพลังในการดูแลลูก การวางแผนการเงินตั้งแต่ลูกยังเล็ก  จะช่วยให้แม่สามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาตรีได้อย่างสบายๆ ไม่เป็นภาระหนักหนามากเกินไป

สู้ๆ ค่ะคุณแม่

ออมเพื่ออนาคตของคนที่คุณรักลองศึกษาขอมูลที่นี่ได้ค่ะ 

www.krungsri.com

Comments are closed.