ซ้อนท้ายใส่หมวก “Helmet Hero”

เป็นที่น่าตกใจมากและทราบกันรึไม่ว่า “อัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กไทย ที่มีเพียงแค่ 7%” จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกเลย โดยในแต่ละปี จะมีเด็กกว่า 2,600 คนเสียชีวิต หรือมากกว่า 7 คนต่อวัน และอีกเกือบ 200 คนต่อวันที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการ หรือกว่า 72,000 คนต่อปี เมื่อเราทราบอัตราจากข้อมูลตรงนี้บอกเลยได้ว่าค่อนข้างเยอะมาก และในทุกๆ วันมีเด็กในวัยเรียนราว 1.3 ล้านคนเดินทางโดยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ อย่างที่ได้กล่าวข้างต้นมีเพียง 7% เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อค แม้ว่าเราจะมีกฎหมายบังคับใช้ก็ตาม การไม่สวมหมวกกันน็อคเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ผลที่ตามมาคือความสูญเสียมากมาย  ในประเทศไทยเราที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องมาเสียใจจากการสูญเสียคนที่รัก ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งๆ ที่การสวมหมวกกันน็อคระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นช่วยป้องกันและลดแรงกระแทกขั้นแรกจากการเกิดอุบัติเหตุได้

infographics_web-1024x755

ในปัจจุบันเท่าที่เราได้เห็นกันตามบนท้องถนนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งประเทศไทยเรานิยมใช้การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์เป็นอันดับต้นๆและค่อนข้างสูง จะเห็นได้ว่าในทุกๆ วัน มีพ่อแม่กับเด็กบนมอเตอร์ไซด์จำนวนมาก ที่ไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อคระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ แล้ว ทำไมจึงไม่สวมหมวกกันน็อค? ทั้งๆ ที่การสวมหมวกกันน็อคเป็นเรื่องความปลอดภัยของลูกๆ และตัวพ่อแม่เองแท้ๆ อย่างที่ทราบหมวกกันน็อคนั้นช่วยป้องกันและลดแรงกระแทกขั้นแรกจากการเกิดอุบัติเหตุได้ เราจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการสวมใส่หมวกกันน็อคให้ลูกหลานของพ่อแม่และผู้ปกครองที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะขับขี่ในการเดินทางบนท้องถนน ในสังคมไทยเรามีน้อยมาก ความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆ หรือลูกๆ หลานๆ ของคุณ ที่เดินทางด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง การสร้างความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กๆ และทุกคนเป็นเรื่องสำคัญ จึงทำให้มีการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยทางถนนให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเห็นถึงความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยในการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ จึงเกิดแคมเปญที่ชื่อว่า “Helmet Hero” หรือ “ฮีโร่กันน็อค”

 

แคมเปญ “Helmet Hero” ฮีโร่กันน็อค คืออะไร!

ประเทศไทยมีผู้เสียชิวิต บาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ และเป็นเด็กๆ ที่ต้องเสียชีวิตสูงถึง 2,600 คน บาดเจ็บและพิการอีกว่า 72,000 คนในแต่ละปี  ผลสำรวจพบว่าสาเหตุหลักของการไม่สวมหมวกนิรภัยคือ การคิดว่าหมวกนิรภัยไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพราะเดินทางใกล้ๆ ไม่ได้ออกถนนใหญ่ เป็นเรื่องเสียเวลา และหลายครั้งถูกมองว่าไม่เท่ เพื่อเป็นการต่อยอดจากแคมเปญ The 7% Project ในปีที่ผ่านมา ในปี 2558 นี้ องค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children จึงได้ริเริ่มแคมเปญ Helmet Hero หรือ ฮีโร่กันน็อค เพื่อเปิดโอกาสให้เหล่าผู้กล้าที่มั่นใจและพร้อมจะแบ่งปั่นเรื่องราวความปลอดภัยบนจักรยานยนต์ของตัวเองให้กับผู้อื่น ก้าวออกมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้จักรยานยนต์ทุกคน

 

เครือข่ายองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองเด็กและป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนน นำโดย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย AIP Foundation และ องค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children จึงได้ร่วมมือกันริเริ่มโครงการ The 7% Project : เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและพิการทางสมองในเด็ก ด้วยการเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กจาก 7% ให้เป็น 60% ทั่วประเทศภายในปี 2560

จากแคมเปญนี้เราจะเห็น วีดีโอคลิป “พระกันน็อค” ที่ออนแอร์อยู่บนสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT

พระกันน็อค อะไรที่ทำให้หลวงพี่ต้องมาพรมน้ำมนต์กลางสี่แยก?

 Viral_play

คลิปที่เห็นคือ คลิปหลวงพี่เดินพรมน้ำมนต์กลางสี่แยกดังในกรุงเทพมหานครให้กับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย อาจจะเป็นสิ่งแปลกใจให้กับผู้พบเห็นกันอย่างมาก โดยคลิปที่เห็นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Helmet Hero หรือ ฮีโร่กันน็อค ขององค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children เขาต้องการสื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองให้ตระหนักถึงความสำคัญของหมวกนิรภัย และเมื่อพูดถึงความปลอดภัย ไม่มีอะไรสามารถทดแทนชีวิตของลูกหลานได้ การสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งจึงเป็นการปกป้องคนที่ตนรักได้อย่างดีที่สุด

Pra-Khru-lovelyair-blog-1

แนวคิดของ viral คลิปนี้ได้จากคำสอนของ พระครูปทุมธรรมธาดา พระนักพัฒนา หนึ่งในฮีโร่กันน็อค ที่สนใจการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและต้องการรณรงค์ไม่ให้เกิดการเสียชีวิตเพราะความประมาท

นอกจากนี้ยังมีคลิปวีดีโอแคมเปญ “ครูกันน็อค”

khru-Somsri_play

“ติวเข้มหมวกกันน็อค” โดย คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษชื่อดัง

Khru-Somsri-lovelyair-blog-2

คุณครูสมศรียกห้องเรียนเพื่อสอนวิชา Helmet Hero ติวเข้มความปลอดภัยในชั้นเรียนวิชาภาษาอัง­กฤษ ให้ลูกศิษย์วัยโจ๋หันมาใส่ใจการสวมหมวกกัน­น็อค โดยหวังให้เด็กๆมีความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เมืองไทยติดอั­นดับโลก เปรียบหมวกกันน็อคเป็นฮีโร่ที่มาช่วยชีวิต และเป็นตัวแทนความห่วงใยของพ่อแม่

Posted by 7-percent.org on Wednesday, 14 October 2015

ในแคมเปญนี้มีบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพที่หลงไหลในจักรยานยนต์แต่ไม่ลืมที่จะคิดถึงเรื่องความปลอดภัย ตั้งแต่ สถาปนิกชื่อดังอย่างดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้กำกับเอ็มวีมือรางวัลอย่างคูณคลัง เค้าภูไทย กลุ่มไบเกอร์ชิค กลุ่มผู้หญิงที่หลงใหลการขี่บิ้กไบค์ คุณหมออดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้บุกเบิกเรื่องการรณรงค์หมวกนิรภัยกับเด็ก ครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดัง คุณ “ชีวาคลาสิค” ไอดอลในการใช้ชีวิตแนววินเทจ พระครูปทุมธรรมธาดา พระนักพัฒนาที่สนใจการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน น้องแคทลียา สุนัขโกเดนท์ทรีฟเวอร์ ที่ใส่หมวกกันน็อคไปกับเจ้าของทุกครั้งที่เดินทาง และคนอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึง ครอบครัวชูเจริญ ครอบครัวที่ชนะการประกวดเรื่องราว “ครอบครัวกันน็อค” มาร่วมแบ่งปันแรงบันดาลใจของพวกเขาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดถึงเรื่องความปลอดภัย พร้อมทั้งเชิญชวนคนไทยทุกคนไปที่เว็บไซต์ www.helmethero.org เพื่อโหวตเรื่องราวกันน็อคที่ประทับใจที่สุด พร้อมทั้งแชร์เรื่องราวของตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม – 15 พฤจิกายนนี้

 

ความสูญเสียจากการไม่สวมหมวกกันน็อคสามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆ ทุกคนที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยทุกๆ ครั้ง ฝากเอาไว้สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการเดินทาง การสวมหมวกกันน็อคเป็นสิ่งสำคัญท่ีไม่ควรหลงลืมหรือละเลย เพราะทุกชีวิตมีค่า อุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาทีของชีวิต  อันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเพราะฉะนั้น อย่าประมาทอย่าประมาท

 

 

Comments are closed.