การแก้อาการเป็น ตะคริว คุณแม่ที่ตั้งครรภ์
อาการเป็นตะคริว หลายคนคงเคยเป็นกันมาแล้วใช่ไหมคะ คืออาการเกร็งตัวที่ทำให้มีอาการปวดและเป็นก้อนแข็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยที่เราไม่สามารถบังคับได้ ร่วมกับมีอาการปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อมัดที่เกิดการหดเกร็ง แต่จะเป็นอยู่เพียงชั่วขณะแล้วอาการจะทุเลาลงไปเองค่ะ ตะคริวอาจเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดของร่างกายก็ได้ อาจเกิดกับกล้ามเนื้อเพียงมัดเดียวหรือหลาย ๆ มัดพร้อมกันก็ได้ค่ะ โดยมักเกิดขึ้นในขณะออกกำลังกาย ขณะเดิน หรือในขณะนั่งพักหรือนอนพักเป็นเวลานานๆ ค่ะ
คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการเป็นตะคริวกันค่อนข้างบ่อย อาจจะเป็นสาเหตุจากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มักต้องการการพักผ่อนค่อนข้างมากและพักผ่อนในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดอาการเกร็งของก้ามเนื้อ จนเกิดอาการเป็นตะคริวขึ้น โดยเฉพาะบริเวณน่องและมักเป็นตอนตั้งครรภ์ 5 เดือนไปแล้ว เพราะเมื่อท้องโตขึ้นมดลูกจะไปกดทับตรงตำแหน่งของอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก กล้ามเนื้อบริเวณน่องก็เลยขาดออกซิเจน ทำให้เกิดอาการปวดเกร็งและเป็นตะคริวขึ้นมาค่ะ
วิธีแก้เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นตะคริว
- ให้นั่งลงกับพื้น เหยียดขาให้ตรง ใช้มือข้างหนึ่งกดเข่าขาด้านที่เป็นตะคริวไว้ ส่วนมืออีกข้างดันปลายเท้าเข้าหาตัว แต่ถ้าท้องใหญ่จนจับปลายเท้าไม่ถึง ก็ให้เหยียดขาตึงแล้วยันกำแพงเอาไว้ แล้วกดที่เข่าเพื่อไม่ให้เข่างอ หากได้สามีช่วยกดก็จะดีไปเลยค่ะ
- ห้ามบีบนวดจุดที่เป็นตะคริวโดยเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยทำให้หายจากตะคริวแล้ว ยิ่งจะทำให้การปวดเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
- เวลานอน พยายามนอนตะแคงด้านซ้ายไว้นะคะ เพราะเป็นท่าที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกที่สุดค่ะ
- ควรหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ทนทานต่อการเกิดตะคริวได้มากขึ้น
- ควรทานอาหารที่มีแคลเซียมด้วยนะคะ เพื่อให้กระดูกแข็งแรงจะได้ช่วยรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และเมื่อกระดูกแข็งแรง คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ก็จะปวดและเป็นตะคริวน้อยลงค่ะ
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ หากเกิดอาการเป็นตะคริวขึ้นก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ตะคริวไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์แต่อย่างใดค่ะ เป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรง เพียงแต่หากเป็นแล้วให้ใช้วิธีแก้ไขตามขั้นตอนที่กล่าวไว้ ก็จะแก้อาการเป็นตะคริวได้ค่ะ
Comments are closed.