วิธีการเลี้ยงลูกที่ดีในยุคนี้

การเป็นคุณพ่อเป็นคุณแม่ในยุคนี้มันไม่ง่ายเลย การอบรมเลี้ยงดูลูกในแบบฉบับที่เราอยากให้เป็นนั้นต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ “โลกเราอยู่ยากขึ้นทุกวัน” มีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวแปร เช่น ความซับซ้อนของสังคมมีมากขึ้น ความเป็นอยู่ของชุมชนและครอบครัว จากสารพัดเทคโนโลยีที่นับวันจะคุกคามความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ภูมิแพ้นับเป็นอีกหนึ่งโรคที่เด็กสมัยนี้เป็นกันมากเหลือเกิน และยังมีโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อโรคอุบัติใหม่มากมาย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้คนที่เป็นพ่อเป็นแม่กังวลและเป็นห่วงมาก ในการปรับตัวและใช้ชีวิตประจำวัน ความรีบเร่งในการใช้ชีวิตประจำวันของหลายๆ ครอบครัว การที่พ่อแม่ไม่สามารถจัดสมดุลชีวิตส่วนตัว การทำงาน และการอยู่กับลูก มักจะเกิดความกังวลและรู้สึกผิดว่า ตนเลี้ยงลูกได้ไม่ดีหรือไม่เต็มที่ และบ่อยครั้งที่พ่อแม่อดไม่ได้ที่เอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นทั้ง ๆ ที่สภาพความเป็นอยู่แต่ละบ้านนั้นไม่เหมือนกัน อาจส่งผลให้พ่อแม่ผลักดันลูกมากเกินไปเพื่อชดเชยความรู้สึกเหล่านี้ด้วยการส่งลูกเรียนพิเศษ ติวเข้มวิชาการ ซึ่งพบเห็นกันตั้งแต่ระดับอนุบาล การเลี้ยงลูกของพ่อแม่ยุคนี้ “ผลักดัน” หรือ “กดดัน” กันแน่ การที่พ่อแม่ผลักดันลูกมากเกินไปจนกลายเป็นความกดดัน จะทำให้ลูกเสียเวลาและเสียโอกาสในการฝึกพัฒนาการรอบด้าน โดยเฉพาะทักษะการใช้ชีวิตและการเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข

หมด! ยุคความเชื่อที่ว่า เด็กต้องเป็นอัจฉริยะถึงจะประสบความสำเร็จ แล้วค่ะ พ่อแม่ควรพิจารณาอย่างจริงจังว่า การเลี้ยงลูกให้มีความฉลาดเป็นอัจฉริยะ หรือเป็นเลิศทางวิชาการ ไม่ใช่คำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จที่ดีที่สุด เด็กในยุคปัจจุบันควรได้รับการเตรียมพื้นฐานของการพัฒนาด้านความพร้อมรอบด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และทักษะ ตลอดจนโภชนาการที่ดีควบคู่กันไป

info-8

การใช้ชีวิตในสังคมอย่างบูรณาการ ปัจจุบันมักจะพบปัญหาของพ่อแม่เรื่องลูกขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก ส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากการช่วยเหลือหรือโอบอุ้มมากไปตั้งแต่วัยเด็กจากพ่อแม่ จนเด็กขาดโอกาสในการฝึกทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบตัวและเวลาที่จำกัด อีกคำถามที่พบบ่อยคือ ปัญหาลูกมีสมาธิสั้น พ่อแม่หลายคนอาจโทษว่าเป็นเพราะอุปกรณ์ทันสมัยและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้ลูกใจร้อน รอคอยไม่ได้ ทำกิจกรรมอะไรได้ไม่นาน ในขณะที่พ่อแม่ใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งรีบและใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเช่นกัน จนเด็กเห็นและซึมซับจนเป็นความเคยชินตั้งแต่เล็กๆ จริงๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจว่าโรคสมาธิสั้นจริงๆ แล้วนั้นมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของสมองโดยตรง ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดู ซึ่งพ่อแม่บางคนมักจะโทษตัวเองว่าเกิดจากตนเองเลี้ยงดูไม่ดีหรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ แต่การเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องตลอดจนสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนทำให้เด็กที่เป็นสมาธิสั้น มีอาการจะแย่ลงค่ะ

info-5

พ่อแม่คือศิลปินผู้สร้างโลกผ่านการเลี้ยงลูก การเลี้ยงลูกต้องคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ การจะเป็นพ่อแม่ที่ดีจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการเตรียมพร้อมและต้องมีความพร้อมในหลาย  ด้าน ถือเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ที่ให้กำเนิดลูกมา พ่อแม่จำเป็นอย่างมากต้องเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจ ตลอดจนการใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ การกอด การสัมผัส การแสดงถึงความรัก การชื่นชมและการได้รับโอกาสในการฝึกทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันทีละนิดอย่างค่อยเป็นค่อยไป พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกสามารถแก้ไขจัดการกับปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้อย่างเหมาะสม การเป็นพ่อแม่ที่ดี ต้องมีความพร้อม มีการเตรียมตัว เตรียมใจในการดูแลลูกซึ่งเป็นที่สำคัญที่สุดที่จะให้ความรัก ความอบอุ่นใจ ดูแลเลี้ยงดูให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม ความจริงในสังคมมีผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จมากมาย ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการสอบได้ที่หนึ่งของวิชาหรือห้อง แต่มักเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย ปรับตัวเข้าหากับคนได้ง่าย

info-9

สิ่งที่จะช่วยให้เด็กประสบความ สำเร็จในอนาคตข้างหน้า คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกให้เด็กมีวินัย สมาธิและสติที่ดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กรู้จักตัดสินใจ รู้กาลเทศะ แล้วก็สามารถแก้ปัญหาในชีวิตได้ค่ะ

เด็กยุคนี้… แค่อัจฉริยะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย คุณพ่อคุณแม่ต้องเอาใจใส่เลี้ยงดูเด็กในยุคใหม่ที่นี้ให้เก่งพร้อมรอบด้าน เพื่อสังคมที่มีคุณภาพและมีความสุขนะคะ

 

แหล่งที่มา และ infograhic

พ.ญ. ตวงพรสุรพงษ์พิวัฒนะ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก

 http://baby.kapook.com/-90685.htm

cute7

 

 

9 Comments

Comments are closed.