การขู่ลูก – หลอกให้กลัว จะส่งผลร้ายมากกว่าดี

ก่อนอื่นเราต้องยอมรับก่อนว่าเราเติบโตมากับสังคมไทยที่ส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่ปู่ย่าตายายมักเคยจะหลอกหรือขู่เราให้กลัวด้วยการยกเรื่องขึ้นมาอย่างเช่นอย่าไปทางนั้นนะเดี๋ยวผีหลอก,  ถ้าไม่เชื่อฟังจะจับไปให้คุณหมอฉีดยาเลย,  ถ้ายังดื้ออยู่พ่อกับแม่จะไม่รักแล้วนะนี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นซึ่งในชีวิตจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่เราก็ถูกหลอกมา

ในความจริงแล้วการขู่หรือหลอกลูกให้กลัวนั้นยิ่งเป็นผลร้าย 

ทำให้ลูกไม่มีความมั่นใจ เกิดความรู้สึกกลัวอย่างไร้เหตุผล

และกลัวในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องกลัว จึงเป็นเสมือนการตอกย้ำ

ให้พัฒนาการทางด้านอารมณ์จิตใจของลูกย่ำอยู่กับที่

ผลจากการถูกขู่-หลอกให้กลัว

ความกลัวอย่างไร้เหตุผลนั้นส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจของลูกโดยตรงโดยเฉพาะลูกวัยที่กำลังมีจินตนาการ  ทำให้เมื่อไรที่เขารู้สึกกลัวความกลัวนั้นจะฝังแน่นในความรู้สึกมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่าและด้วยการมีประสบการณ์เพียงน้อยนิดทำให้การใช้เหตุผลของลูกยังไม่ดีพอโอกาสที่ความกลัวจะพลุ่งพล่านจึงมีมากขึ้นหากเราหลอกให้ลูกกลัวอย่างไร้เหตุผลความกลัวนี้จะติดไปจนกระทั่งเขาโตและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่กลัวในสิ่งที่ไม่น่าจะกลัว

พ่อแม่ควรทำอย่างไร แทนการขู่-หลอก

• พ่อกับแม่ ควรจะยั้งคิดและตั้งสติก่อนทุกครั้ง ที่กำลังจะขู่หรือหลอกลูก
• หากต้องการให้ลูกทำอะไร ควรอธิบายถึงเหตุผลให้ลูกเข้าใจ เด็กๆ เข้าใจเหตุผลได้มากกว่าที่คุณคิด
• พ่อแม่ควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก และไม่กลัวอย่างไร้เหตุผลเช่นกัน
• แก้ไขความเข้าใจผิดของลูก หากคนรอบตัวหลอกให้ลูกกลัว

การที่เด็กเลิกกลัวในสิ่งที่ไม่มีเหตุผลนั้นเป็นการช่วยพัฒนาการการใช้เหตุผลของเด็กให้รู้จักคิดไตร่ตรองวิเคราะห์แยกแยะและเมื่อโตขึ้นก็จะเป็นคนที่มีเหตุผลและไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆถือเป็นการสร้างเกาะกำบังในการใช้ชีวิตของลูกได้ในอนาคตได้อย่างดี