เรื่องของ นมแม่ นมวัว และ นมแพะ

เอาความรู้เรื่องของ “นม” มาให้อ่านกันค่ะ ว่านมแต่ละชนิดนั้นคุณแม่อาจพิจารณาในการเลือกนมอย่างไรดี แล้วอ่านกันดูนะคะ

shutterstock7

 

น้ำนมแม่ แน่นอนว่าทุกคนล้วนทราบดีว่าน้ำนมแม่ดีที่สุด เรียกว่าเป็นยาครอบจักรวาลของลูกเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งหัวน้ำนมซึ่งรวมเอาสารอาหาร ที่ดีที่สุด สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้อีก คุณแม่ควรที่จะพิจารณาให้ลูกได้รับนมแม่ประมาณ 1 ปี เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว ก็ควรให้ดื่มต่อโดยดื่มจากแก้วก็ได้ ที่บอกว่านมแม่หมดประโยชน์แล้วไม่เป็นความจริงเลยค่ะ

ผลวิจัยหลายสถาบัน ชี้ “นมแม่” เพิ่มค่าไอคิวสูงกว่า 3 จุด พบเด็กที่ดื่มนมแม่จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ดื่มนมกระป๋อง หรือ นมวัวถึง 8 แต้ม และช่วยเพิ่ม  ไอคิวได้ถึง 3 – 5 จุด ในขณะที่องค์การอนามัยโลก และองค์การยูนิเซฟ “กดไลค์” ให้นมแม่เป็นสุดยอดอาหารสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ทว่าจากผลสำรวจแม่ชาวไทยกลับมีอัตราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่ำในอาเซียน 

ผลสำรวจพบว่า ระยะเวลาการดื่มนมแม่ มีผลต่อระดับคะแนนไอคิวที่สูงขึ้น เด็กที่ดื่มนมแม่นานกว่า 6 เดือน มีระดับคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเด็กที่ดื่มน้อยกว่า 3 เดือน ประมาณ 6 คะแนน และสูงกว่าเด็กที่ไม่ดื่มนมแม่เลยประมาณ 3 จุด ในทารกเกิดครบกำหนด สำหรับทารกที่เกิดก่อนกำหนดจะได้รับระโยชน์ที่สูงมากขึ้น ประมาณ 5 จุด และจากผลศึกษาวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นไปในทางเดียวกันว่า การให้นมแม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองของทารก เพราะสารอาหารต่างๆ ในนมแม่ คือ แหล่งรวมสารส่งเสริมพัฒนาการของสมอง ภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน อนุมูลอิสระที่จำเป็นสำหรับทารก ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยและทำให้ทารกเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ ส่งผลโดยตรงต่อการเรียนรู้ของเด็ก เสริมสร้างระดับสติปัญญา (ไอคิว) ในเด็กให้เพิ่มขึ้นได้ เห็นประโยชน์ใช่ไมค่ะ เลี้ยงลูกน้อยด้วยนมแม่กันเถอะค่ะ

shutterstoc7

 

นมวัว หลังจากพ้นขวบปีแรก คุณแม่อาจพิจารณาในการเลือกนมวัวให้ลูก ซึ่งทางเลือกควร ที่จะเป็นนมออร์แกนิก โดยดื่มประมาณ 2 ถ้วย (16 ounces) ต่อวัน ถ้าลูกดื่มน้อยกว่านี้ อาจจำเป็นต้องได้รับไขมันและแคลเซียมจากอาหารแหล่งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่พึงระวังว่า การดื่มนมมากๆ ในกรณีนี้ใช้คำว่า ยิ่งมากยิ่งดีไม่ได้ เพราะน้ำนมที่มากเกินไปจะทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กของลูกน้อยทำงานได้แย่ลง และยังสามารถเกิดภาวะโลหิตจางได้อีกด้วยค่ะ ส่วนน้องที่เป็นโรคภูมิแพ้ รวมถึงออทิสติก มักจะถูกแนะนำให้ลด ละ เลิกการดื่มนมวัว เนื่องจากเด็กสามารถแพ้โปรตีนจากนมวัวได้ค่ะ

นมแพะ ถ้าเด็กไม่สามารถดื่มนมวัวได้ (หรือในกรณีที่คุณแม่กังวลว่า การดื่มนมวัวมากเกินไปจะส่งผลหลายอย่างต่อร่างกาย) ก็ควรปรับเปลี่ยนมาดื่มนมแพะแทนค่ะ ถึงแม้ว่านมแพะจะมีโปรตีนคล้ายกับนมวัว แต่เด็กส่วนใหญ่จะมีความสามารถในการย่อยโปรตีนจากนมแพะได้ดีกว่านมวัวเสมอ ขอเพียงแต่ ไม่เปลี่ยนมาดื่มนมแพะเพราะต้องการลดแลคโตสเพราะนมแพะก็มีแลคโตสเช่นเดียวกัน ข้อดีของ นมแพะก็คือ มีวิตามิน A วิตามิน B และเซเลเนียมมากกว่านมวัวค่ะ

นมถั่วเหลือง สามารถใช้ทดแทนนมวัวได้ ในกรณีที่ลูกน้อยไม่สามารถดื่มนมวัวได้เลย ซึ่ง นมถั่วเหลืองที่ขายโดยทั่วไปส่วนใหญ่จะมีการเพิ่มแคลเซียมและวิตามินอยู่แล้ว ส่วนปริมาณก็เท่ากับ การดื่มนมวัวโดยพยายามเลือกนมถั่วเหลืองแบบ ออร์แกนิกนะคะ

นมข้าว จะว่าไปนมชนิดนี้กลายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่ลูกแพ้นมวัว โดยเลือกที่มีการเพิ่มวิตามิน A และ วิตามิน D แต่ข้อแตกต่างคือ นมข้าวไม่ค่อยมีไขมัน ดังนั้น คุณแม่ที่เลือกให้ดื่มนมข้าว อาจจะต้องให้ลูกรับประทานอาหารที่มีไขมันเพิ่ม ข้อแนะนำคือ เลือกแบบที่ไม่เพิ่มความหวาน ไม่ปรุงแต่งสีและรส รวมถึงเป็นออร์แกนิกค่ะ

shuttersto681115

นมอัลมอลต์ สามารถรับประทานได้เหมือนกับนมข้าวเพราะมีโปรตีนมากเพียงพอ แถมยังมีน้ำตาลน้อยกว่านมข้าวค่ะ

ข้อมูลจาก www.motherandcare.in.th

cute7 

 

Comments are closed.