โบกมือลา ปัญหาสิว แม่ท้อง
ความสวย ความงาม ยังไงๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงค่ะ ยิ่งสิวมาเยือน ย่อมสร้างความหงุดหงิด กังวลใจอย่างแน่นอน ที่สำคัญวิธีแก้ปัญหาเรื่องสิวช่วงตั้งท้อง ต้องคำนึงถึงเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย เราไปดูคำแนะนำดีๆ พร้อมวิธีดูแล จัดการปัญหาเรื่องสิวกันค่ะ
สิวเจ้าปัญหา
ช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกาย (ฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนต่อมใต้สมองส่วนกลาง) จะเพิ่มขึ้น เมื่อฮอร์โมนเพิ่มขึ้น รูขุมขนก็ผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้ใบหน้าของคุณแม่มีความมัน ขณะเดียวกันผิวหนังมีการยืดขยายตัว ทำให้รูขุมขนบนใบหน้าขยาย สิ่งสกปรกจึงอุดตันได้ง่าย เป็นสาเหตุปัญหาเรื่องสิวยิ่งคุณแม่มีความกังวลใจต่างๆ เช่น ความเครียด ความหงุดหงิดร่วมด้วยก็ยิ่งเป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นค่ะ
ถึงเวลาจัดการ… สิว
D0 ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2-3 ครั้ง ด้วยน้ำธรรมดา หรือหากใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ก็ควรเลือกชนิดที่อ่อนโยนต่อผิว
D0 ดูแลความสะอาดของนิ้วมือ (เล็บ) เพื่อป้องกันเรื่องสิ่งสกปรก เวลาสัมผัสใบหน้า
D0 คุณแม่ผมยาว ควรคาดผม มัดผมให้เรียบร้อย จะได้ไม่ปิดหรือบังใบหน้า ลดปัญหาสิวบริเวณหน้าผาก
D0 ดื่มน้ำสะอาดให้มาก เพื่อให้ผิวชุ่มชื่น และควรปรึกษา คุณหมอทุกครั้ง ก่อนการใช้ยาดูแลเรื่องสิว
D0 โดยเฉพาะการพักผ่อนร่างกาย และจิตใจของคุณแม่ ก็มีส่วนช่วยให้ปัญหาเรื่องสิวของคุณแม่ดีขึ้นนะคะ
Don’t เลี่ยงการบีบ กด หรือแกะสิว เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย เกิดรอยดำ รอยแผลบนใบหน้า
Don’t การล้างหน้า เพื่อลดความมันบนใบหน้า ไม่ควรล้างบ่อยๆ เพราะมีส่วนทำให้ผิวแห้ง
Don’t ยิ่งน้ำอุ่น ไม่แนะนำให้ใช้ล้างหน้าค่ะ เพราะจะทำให้สิวอักเสบแดงมากขึ้น
Don’t งดการนวดหน้า ขัดหน้า และใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า ชั่วคราวก่อนดีกว่า
แม่ท้องกับยารักษาสิว
ปกติแล้ว หากไม่จำเป็น โดยส่วนใหญ่คุณหมอจะไม่แนะนำแม่ท้องให้ใช้ยาเท่าไรนัก ยกเว้นแต่คุณหมอวินิจฉัย แนะนำให้ใช้ได้ โดยเฉพาะยารักษาสิว ไม่ว่าชนิดทาหรือกิน ตัวยาบางชนิดมีผลข้างเคียงกับทารก และเพื่อทำความเข้าใจ รู้จักกับยารักษาสิวแต่ละชนิด คุณสมบัติต้องห้าม มาดูข้อมูลต่อไปนี้กัน
ยากลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์
ได้แก่ Tretinoin, Isotretinoin, Adapaleno มี ข้อบ่งชี้ในการรักษาสิวที่มีอาการรุนแรง มีผลทำให้ทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิดได้ และแม้ว่าจะคลอดออกมา ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะมีการบกพร่องทางสมอง ดังนั้น ผู้ที่ได้รับยา Isotretinoin ควรคุมกำเนิดก่อนกินยาอย่างน้อย 3 เดือน และคุมกำเนิดตลอดระยะเวลาที่ใช้ยาตัวนี้ในการรักษา และ หยุดการใช้ยาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน ถึง 1 ปี ก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ คุณแม่ที่ให้นมลูกไม่ควรกินยาชนิดนี้เด็ดขาด
ยากลุ่มเดตตร้าชัยคลิน
ได้แก่ Tetracycline, Doxycycline และ Minoeyeline ซึ่งเป็นยากินรักษาสิวที่ใช้กันมาก เนื่องจากยาตัวนี้มีผลต่อกระดูกและฟันของเด็กอ่อนในครรภ์
ยากลุ่มฮอร์โมน
เช่น Spironolactone, Cyproterone Acetate ระหว่างกินยาชนิดนี้ห้ามตั้งครรภ์ เพราะลูกน้อยในท้องที่เป็นเพศชายคลอดออกมามีลักษณะคล้ายเพศหญิง
ดังนั้น เรื่องสำคัญ การจัดการปัญหาเรื่องสิวก็คือ เรื่องความสะอาด ส่วนเรื่องยารักษาสิว ยาบางกลุ่มอาจมีผลข้างเคียง รบกวนการสร้างอวัยวะสำคัญของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกเกิดความผิดปกติหรือพิการ จึงไม่ควรใช้หรือซื้อยารักษาสิวด้วยตัวเองเด็ดขาด อีกทั้ง ปัญหาเรื่องสิว สามารถคลี่คลายไปได้เอง (หากสิวไม่ได้อักเสบรุนแรง ชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด) เพราะหลังจาก คุณแม่คลอดน้อง ระดับฮอร์โมนจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลเป็นปกติ ทำให้คุณแม่กลับมาหน้าใสเหมือนเดิมค่ะ
แหล่งที่มา Mother & Care #103 Vol.9 July 2013 / www.motherandcare.in.th
Comments are closed.