เที่ยวฝรั่งเศสมาราธอน Lyon & The Alps ตอนที่ 2
จากตอนที่แล้วเราเที่ยวจากเมือง Lyon – Annecy – Chambéry ค่ะ มาตอนนี้มาต่อกันที่เมือง Chamonix-Mont Blanc จุดประสงค์เพื่อไปเยี่ยมชมยอดเขา Mont Blanc และ Mer de Glance ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสค่ะ แต่…………. (ยังไม่บอก) จะเล่าประวัติให้ฟังก่อนค่ะ “Chamonix-Mont-Blanc” หรือเรียกกันอีกชื่อว่า Chamonix (ชาโมนิก) เป็นเมืองเล็กๆ ในเขต Rhône-Alpes ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสและ Chamonix-Mont-Blanc อยู่ในเขตของภูเขาที่สูงที่สุดในเทื
ออกเดินทางโดยรถยนต์ไปยัง Chamonix-Mont-Blanc
วิวข้างทางระหว่างขับรถไปค่ะ วิวนี้….. สุดนะคะ
Chamonix is known as the “gateway to the European Cascades.”
เป็นวิวภูเขาที่สูงที่สุดเท่าที่เคยเห็นและงดงามมากค่ะ
ถึงจุดหมายแล้วค่ะ Chamonix-Mont-Blanc เมืองเล็กๆ ที่มีภูเขาสูงล้อมรอบและอยู่ติดกับแนวเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้เค้าจะมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีนะคะ สามารถมองเห็นภูเขาหิมะสูงได้ถ้าสภาพอากาศดีค่ะ แต่เสียดายมากทริปนี้ฝนตกตลอดเลยค่ะ คือได้เช็คสภาพอากาศแล้วคือช่วงที่ไปโชคร้ายจริงๆ มีพายุเข้าค่ะทำให้ฝนตกตลอดเลยเสียดายมาก อย่างที่เห็นในภาพฝนตก หมอกเลยค่อนข้างหนามากค่ะมองไม่เห็นยอดเขาเลย อากาศที่ Chamonix จะค่อนข้างเย็นอยู่แล้วใครมาที่นี่ก็ติดเสื้อโค้ทกันหนาวมาด้วยนะคะ ยิ่งถ้าขึ้นกระเช้าไปบนภูเขาแล้วหนาวจับใจค่ะ ในภาพคือจุดขึ้นนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าค่ะ “Telepherique de l’Aiguille du Midi” จะพาเราไปสู่ยอดเขา Aiguille du Midi (ไอกุย ดู มิดิ) ที่ความสูง 3,842 เมตร เพื่อชมความงามและทัศนียภาพของยอดเขา Mont Blanc ที่สูงที่สุดในยุโรป “ยอดเขามองบลังค์” เป็นภูเขาสูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์อยู่ทางยุโรปตะวันตกและยังถูกจัดอันดับเป็นยอดเขาสูงที่สุดอันดับ 11 ของโลก ที่มีความสูงถึง 4,807 เมตร
เมื่อเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นไปแล้วจะได้เห็นวิวอย่างเต็มตาของยอดเขามองบลังค์ ชมความสวยงามของยอดเขาสูงที่สุดของยุโรปค่ะ จะมีจุดชมวิวที่สวยงามที่เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์โดยรอบๆ ค่ะ
ถึงแล้ว Snap ภาพไว้ในความทรงจำค่ะ จะบอกว่าเสียดายมาก อยากจะร้องไห้ที่ไม่ได้ขึ้นไปชมบรรยากาศข้างบนยอดเขานี้ทั้งๆ ที่มาถึงที่แล้ว สภาพอากาศไม่เป็นใจค่ะใจร้ายที่สุด คือถึงจะขึ้นนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าไปบนเขาโน่นก็มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นค่ะ หมอกลงหนามากๆๆ ก่อนจะซื้อตั๋วขึ้นไปเจ้าหน้าขายตั๋วเอาภาพวิวข้างบนให้ดูก่อนค่ะ โดยดูภาพผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บนยอดเขาและจุดชมวิวต่างๆ แล้วแจ้งเราตามจริงค่ะ ว่าคุณจะขึ้นไปก็ได้นะคือนั่งกระเช้าเล่นแต่คุณจะไม่เห็นอะไร วิวคือหมอกสีขาวเท่านั้น ก็ไม่เป็นไรค่ะ เสียใจนะ ไว้โอกาสหน้าละกันเราต้องเจอกันอีกแน่ๆ Mont Blanc
ถ้าขึ้นไปบนยอดเขามองบลังค์แล้วมันจะเป็นแบบนี้ค่ะ คือเค้าจะมีจุดชมวิวแต่ละจุดให้เราเที่ยวชมด้วยค่ะ
อันนี้คือภาพรวมของเทือกเขาแอลป์ค่ะ จะเห็นระดับความสูงของเขาแต่ละลูก
นี้คือวิวจริงๆ ที่แอร์จะต้องเห็นไฮไลท์อยู่ตรง Glass Box ที่คนยืนอยู่ค่ะ แต่ทริปนี้บุญไม่ถึงให้เห็นค่ะ เราจะต้องเจอกันอีกขอสัญญา
Credit Photo: www.compagniedumontblanc.co.uk
บรรยากาศของเมือง Chamonix
ภาพนี้จริงๆแล้วจะต้องมองเห็นวิวของเทือกเขาเทือกเขาแอลป์ด้วยค่ะ แต่สังเกตกันดีดีนะคะ นั้นไม่ใช่ก้อนเมฆค่ะ แต่เป็นกลุ่มเมฆหมอกหนาลงจัดๆมากๆ
Chamonix-Mont-Blanc เป็นอีกเมืองที่น่ารักและมีความงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ที่ไปมาเลยค่ะ
เมืองเล็กๆ แต่มีที่ให้ Shopping เพียบนะคะ
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ “Mer de Glace” ตรงนี้เป็นจุดขึ้นรถไฟไปยังธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส โดยธารน้ำแข็งมีความยาว 7 กิโลเมตรและหนา 200 เมตร เราต้องนั่งรถไฟ Montenvers ขึ้นไปค่ะ Mer de Glace มีอีกชื่อที่เรียกกันว่า “Sea of Ice”
เตรียมตัวค่ะ เราจะไปข้างบนกัน
ระหว่างทางบนรถไฟ Montenvers ค่ะ หมอกจางๆ ทั้งนั้น วิวดีมากเลยค่ะ ไม่ค่อยเห็นอะไรสักเท่าไร ฮาๆ
วิวข้างทางระหว่างที่นั่งรถไฟขึ้นไปที่ Mer de Glace ค่ะ ถ่ายมาได้เท่านี้จริงๆ นอกนั้นขาวหมดจด
ถึงแล้วค่ะแอร์ขึ้นเขามาไกลสุดได้เท่านี้ ไปต่อไม่ได้แล้ว มันติดหมอกไปหมด หมอกลงจนมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ เค้าต้องปิดส่วนเข้าชม Mer de Glace ถ้ำธารน้ำแข็ง ก็อดชมอีกค่ะ จบกัน…. เศร้ามากนะจุดนั้น มาถึงที่แต่ไม่ได้เที่ยว ไม่เป็นไร เจอกันอีกทีละกัน
ยืมภาพ Mer de Glace ถ้ำธารน้ำแข็งมาให้ชมค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ นี้คือจุดสำคัญเลยของทริปนี้ อดอีกไม่ได้ชมของจริง
Credit Photo: www.topofeuropeorganisation.com
มองไม่เห็นวิวอะไรเลยจริงๆ…. ยืนถ่ายรูปพิสูจน์ให้ดูค่ะ
มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้ในความทรงจำ มาถึงแล้วนะถึงแม้จะถึงไม่สุดก็เหอะ!
จากจุดที่แอร์ขึ้นมานี้ นอกจากนั่งรถไฟขึ้นมาได้แล้ว เราสามารถนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นมาได้เช่นกันหรือจะเป็นแบบขึ้นมาโดยนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขากลับก็นั่งรถไฟลง หรือจะขึ้นโดยรถไฟลงโดยเคเบิ้ลไฟฟ้าตามแต่จะสะดวกค่ะ แต่วันนี้เคเบิ้ลไฟฟ้าปิดให้บริการค่ะเนื่องจากสภาพอากาศ
จะเก็บเธอไว้ในความทรงจำ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่นะคะ Mer de Glace
อากาศเริ่มดีขึ้นมาหน่อยแล้วค่ะ มองเห็นยอดเขาบ้างแล้ว
ภูเขาแถบจะนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะค่ะ
นี้เป็นภาพระหว่างที่เราขับรถออกจากเมือง Chamonix-Mont-Blanc ค่ะ พอจะกลับหมอกก็จางเชียว
วิวข้างทางชนบท ทุ่งเลี้ยงวัว
เราจะเดินทางไปเมืองน้ำแร่ชื่อดังของโลกค่ะ “Évian”
ถึงแล้วค่ะ เมือง “Évian” (เอเวียงหรือเอวิออง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีการค้นพบแหล่งน้ำแร่คุณภาพ และได้มีการพัฒนาน้ำแร่ของเมืองขึ้นจนเป็นธุรกิจระดับโลกมานานกว่า 200 ปีแล้วค่ะ ทุกวันนี้เอเวียงผลิตน้ำแร่กว่า 1,500 ล้านลิตรใน 129 ของประเทศส่งออกน้ำแร่ธรรมชาติ
ชื่อเต็มของเมืองเอเวียงคือ “Evian les Bains” ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บนฝั่งทะเลสาบชื่อ Lake Léman (or Lake Geneva) ทะเลสาบ Léman เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตกและทะเลสาบแห่งนี้อยู่ระหว่างฝรั่งเศสและสวิสค่ะ ถูกล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามมากๆ ค่ะ
เมือง “Évian” ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบและเชิงเขาของเทือกเขา Chablais และเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “pearl of Lake Geneva”
น้ำแร่เอเวียงมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศฝรั่งเศสซึ่งใช้เวลากลั่นกรองผ่านชั้นหินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากกว่า 15000 ปี จนกระทั่งได้น้ำแร่ที่สะอาดบริสุทธิ์ ไหลรินสู่เมืองเอเวียง เลส์ แบงส์
อนุเสาวรีย์ไม่ทราบประวัติค่ะ แต่น่าจะเกี่ยวกับเด็กๆ
รูประหว่างเดินชมเมืองค่ะ
เมืองนี้เงียบสงบ น่ารักไปอีกแบบ
ภาพนี้คือแหล่งที่มาของน้ำแร่ “Evian” เค้าเรียกกันว่า “Source Cachat” น้ำที่ได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ที่โผล่ออกมาจากอุโมงค์ในเทือกเขาที่ 52.88 องศา F. เป็นน้ำที่มาจากการละลายของหิมะและฝนที่ตกไหลจาก Vinzier Plateau ซึ่งเป็นราบมากว่าสิบห้าปีโดยผ่านการกลั่นกรองจากทรายน้ำแข็ง (glacial sand)
ตรงนี้เป็นจุดเติมน้ำดื่มฟรีค่ะ อย่าลืมพกขวดมาด้วยนะคะ ผู้คนละแวกนี้และชาวเมืองที่อาศัยใน “Evian” ก็จะมาต่อคิวเอาขวดหรือเอาถังบรรจุน้ำดื่ม มาเติมเพื่อนำไปบริโภคกันค่ะ ที่สำคัญน้ำแร่ฟรีค่ะ ดื่มฟรีกันทั้งเมือง จะบอกว่าน้ำที่ไหลออกมานั้นเย็นชื่นใจจริงๆ ค่ะ
ระหว่างทางเดินกลับแสงลงมาที่เสาไฟพอดีทำให้เกิดเงาโค้งสวยอยู่บนถนน รูปนี้ตั้ง F11 เพื่อจะเก็บความคมตั้งแต่เงาของเสาไฟที่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง แต่แสงก็ยังสว่างมากอยู่ ดัน Speed Shutter ไปถึง 1/640 เลยทีเดียว เพื่อให้ได้สภาพแสงเหมือนกับว่าพระอาทิตย์กำลังตก
เมือง “Évian” เป็นเมืองที่ความงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆ ที่ผ่านมาเลยค่ะ วิวรอบๆ ทะเลสาบช่างสวยและงดงามโรแมนติกเหลือเกินค่ะ ถ้าใครมีโอกาสจะไปสวิสหรือผ่านมาเส้นนี้ของฝรั่งเศสก็ลองแวะเที่ยวชมกันดูนะคะ “Evian les Bains”
Comments are closed.