สวัสดีค่ะทุกคน… ทริปตะลุย ไปเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า (Osaka) ของครอบครัวแอร์มาแย้ว… หลังจากดองไว้นานมว๊ากก… วันนี้ได้ฤกษ์มาเขียนสักที เล่าเลยนะคะครั้งนี้เป็นทริปคิดเร็วๆ คิดไม่นานเลยค่ะ อยากไปเที่ยวดูวันปุ๊ปก็กดจองปั๊ปค่ะ มาเร็วเคลมเร็วแค่ดูวัน รู้ว่ามีวันหยุด.. ว่าเที่ยวได้ก็พุ่งตัวทันที… รอบนี้เดินทางไปกับสายการบินแอร์เอเชียเช่นเคยค่ะ ไปกันเยอะก็จะบินประหยัดๆ หน่อย…
ทริปนี้ไปไหนบ้าง
- DAY 1: สนามบินคันไซ → พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า “ไคยูคัง” [ Osaka Aquarium KAIYUKAN ]
- DAY 2: พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน เมืองโกเบ [ Kobe Anpanman Children’s Museum & Mall ] → ป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมน [ Glico Man Neon Billboard ] → ย่านโดตมโบริ [ Dotonbori ] แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโอซาก้า
เที่ยวครั้งนี้เป็นครั้งแรกของน้องลูฟวร์ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยนะคะ นางมีความตื่นเต้น… ( พาลูกไปญี่ปุ่น )
เอา Booking มาให้ดู ทริปนี้เราไปกัน 5 วันค่ะ ตั้งวันที่ 11-15 สิงหาคม 2018 คร่อมช่วงวันหยุดวันแม่แห่งชาติพอดี ถ้าสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่าวันจองใกล้วันเที่ยวจริงๆ ค่ะ ในวันเดินทางครอบครัวแอร์เราออกเดินทางกันไฟล์ทบินกลางคืน ให้เด็กๆ นอนหลับกันไปบนเครื่องบินตื่นมาถึงญี่ปุ่นก็เช้าพอดีค่ะ
ถึงแล้ว.. สนามบินคันไซ (Kansai International Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นเลยน่า รู้กันป่าวสนามบินที่นี่นะ เค้าเป็น “สนามบินลอยน้ำ บนเกาะที่มนุษย์สร้างเองทั้งหมด” แห่งแรกของโลกจ้า (เคยอ่านมาห๊ะ)
ถึงสนามบินออกมาก็เจอสถานีรถไฟพอดีเลยค่ะ ซื้อตั๋ว JR 4 Days Pass ไว้ใช้ได้ตลอดทริป เพื่อความประหยัดและรวดเร็วค่ะ ก่อนอื่นครอบครัวแอร์ขอพาเด็กๆ ไปโรงแรมที่พักกันก่อนนะคะ เก็บกระเป๋าเดินทางกันก่อน ทริปนี้แม่ไม่รีบ… เราพาเด็กๆ มาเที่ยวด้วยมากันเอง เที่ยวกันเองชิวได้
ภายในรถไฟ JR สะดวกสบายมาก นั่งรถประมาณ 40 นาทีก็ถึงที่พักค่ะ
เด็กๆ กำลังตื่นตากับการนั่งรถไฟข้ามทะเล ทำไมเมืองไทยไม่มี 😛
ถึงแล้ว… สถานีรถไฟปลายทางที่พักของเราคือ “Tengachaya Station” ค่ะ ลงที่สถานีนี้แล้วเดินเพียง 5 นาทีก็ถึงที่พักค่ะ ชื่อบ้าน “Bijou Suites Ten” ซึ่งทางแอร์จองผ่าน BOOKING.COM รวมๆ คืนละ 7,000 บาทค่ะ ปกติถ้าเลือกห้องในเมืองจะตกคืนละประมาณ 5,000-6,000 กว่าบาทอยู่แล้ว แล้วห้องในเมืองห้องก็จะแคบๆ และเล็ก คราวนี้ครอบครัวแอร์เลยขอเลือกขยับห้องพักออกมานอกเมืองหน่อยได้ที่พักสบายๆ ดีกว่าค่ะ
บริเวณที่พักของแอร์นะคะ มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ทั้งแบบเป็นร้านนั่งทาน หรือจะซื้อกลับไปกินที่ที่พักก็ได้ และก็มี Supermarket ใกล้ๆ สะดวกมากมายเลยค่ะ
ถึงแล้ว… ห้องพัก เห็นห้องแล้วหายเหนื่อยเลย… ครั้งนี้นะเป็นครั้งแรกเลยนะคะที่แอร์จองที่พักเป็นแบบ Apartment house (อารมณ์คล้ายๆ Airbnb) ที่พักเราจะออกมาห่างจากตัวเมืองหน่อย… แต่ก็ถือว่าไม่ไกลมากค่ะ เพราะการเดินทางค่อนข้างสะดวกมากเพราะที่พักเราใกล้สถานีรถไฟมากๆ ถึงปุ๊ป.. เจ้าของห้องน่ารักมากเลย มีของขวัญและเขียนโน๊ตจดหมายไว้ให้ด้วย เด็กๆ แฮปปี้กันใหญ่เพราะมีของเล่นไว้ให้ด้วย
ภาพนี้เป็นภาพของบ้านพักของครอบครัวแอร์สำหรับทริปนี้นะคะ ตัวบ้านมีทั้งหมด 2 ชั้นค่ะ ภายในบ้านมีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย Wi- Fi ฟรี, มีตู้เย็น, TV, เครื่องซักผ้า, เตารีด, เตา, หม้อ, หม้อหุ้งข้าว, กระทะ, ไมโครเวฟ, และชุดจานชาม ครบมากซื้ออาหารมาทำกินเองที่ที่พักได้เลย… บ้านหลังนี้ถือว่ากว้างมากนะคะ แอร์จองเข้าพัก 4 คน แต่ขอแอบบอกไว้นิดหนึ่งว่าบ้านหลังนี้นอนได้เกิน 4 ชัวร์ ชั้นบนจะมีที่นอนแบบปูพื้นสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ แอบเห็นฟูกนอนในตู้อีกเพียบเลยมากกว่าสี่ฟูกแน่นอน…. ราคาจองมาคืนละ 7,000 บาทค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำนั้น ก็มีอ่างอาบน้ำด้วยนะคะ
หลังจากเข้าที่พักเก็บกระเป๋าสัมภาระกันแล้ว พาเด็กๆ อาบน้ำ พักผ่อน และทานข้าวกัน ต่อจากนั้นเราก็เที่ยวต่อกันเลยค่ะ ภาพนี้ขอแวะถ่ายกับยีราฟหน่อย เราไม่ได้มาเที่ยว Legoland น่า… แต่ถ้าใครจะมาห้างนี้มี Legoland เล็กๆ อยู่ด้วยจ้า..
DAY 1: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า “ไคยูคัง” [ Osaka Aquarium KAIYUKAN ]
วันแรกพาเด็กเที่ยวเย็นๆ เดินสบายแบบเบาๆ ก่อน ขอเล่าให้ฟังก่อนนิดหนึ่ง คือช่วงที่แอร์เดินทางมันเป็นช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นพอดีค่ะ แต่หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นครั้งนี้บอกเลยร้อนตับแตก ร้อนมากมาย ร้อนแบบเดินแก้มแดงกันทั้งบ้าน คือโชคดีมากมารู้ที่หลังว่า ทริปนี้เป็นช่วงหน้าร้อนที่ร้อนที่สุดของญี่ปุ่นในรอบ 100 ปีเลยค่ะ OMG มาก.. ร้อนจริงจัง เดินกันเหงื่อหยด ร้อน ร้อนมาก (ร้อนกว่าประเทศไทย) เอาง่ายๆ แอร์ขอคิดบวกเรียกมันว่า “ทริปลดน้ำหนักดีดี” นี่เอง!
ถึงแล้วดีดี้ขอถ่ายภาพเก็บ… กระโดดเลย…
ภาพบรรยากาศภายใน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า “ไคยูคัง” ค่ะ พิพิธภัณฑ์เค้าค่อนข้างใหญ่มีหลายชั้นอยู่ ให้เราเดินวนๆ ไปเป็นวงกลมค่ะ ครอบครัวแอร์พอไปถึงก็เริ่มขึ้นไปชั้นบนสุดก่อนค่ะ แล้วค่อยชมลงมาข้างล่าง… ที่นี่นะปลาเยอะมาก ๆ ปลาแปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็นก็ได้มาเห็นตัวเป็นๆ ที่นี่ค่ะ
ขอแนะนำนิดหนึ่งนะคะว่าให้จองซื้อตั๋วไปก่อนจะดีมาก แอร์จองผ่านเว็บ www.kkday.com นะคะ มีบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ ให้เลือกมากมาย จองแล้วก็จะมี Email ส่งมาเราก็พิมพ์ออกมานำไปแสดงตอนเข้าประตูได้เลยค่ะ สะดวกมากๆ เพราะคิวซื้อตั๋วจะยาวถ้าเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ แนะนำอีกนิดว่าถ้ามาวันธรรมดาคนจะน้อยหน่อย แต่ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์ช่วงเช้าคนแน่นค่ะ แน่นเลยเดินกันนี้แบบ ต้องหมุดดูหาซอกแหวกคนเข้าไปชมปลาตามตู้ แต่พอตกบ่ายแก่ๆ คนเริ่มน้อยเดินสบายเลย…
ปลาหน้าตาประหลาดเหมือนจะกลมตัวนี้คือปลาพระอาทิตย์ (Ocean Sunfish) ค่ะ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า “ไคยูคัง” เลยนะคะ ห้ามพลาดที่จะมาชมตู้นี้เลยนะ
รูปเต็มๆ ชวนกันดำดิ่งไปในใต้ทะเลน้ำลึก ปลาตัวนี้โดดเด่นที่สุดเลย นี่คือ ฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ยักษ์ค่ะ หาดูตัวเป็นๆ กันยากนะ แต่ก็มาดูได้ที่นี่ค่ะ
ภายในพิพิธภัณฑ์เค้ามีร้านกาแฟเล็กๆ พอให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆ ไปนั่งทานของว่าง เลือกซื้อเครื่องดื่มดื่มกันด้วยค่ะ
ตรงนี้นะคะ เป็นบ่อที่เค้าให้เราจับปลาได้ค่ะ… แต่ก่อนจับเราต้องล้างมือตรงจุดที่เค้าเตรียมไว้ก่อนนะ ถ้าเราไม่ล้างมือ แล้วมือเราสกปรกไปจับปลาเข้า น้ำก็อาจจะสกปรกปนเปื้อนเชื้อโรคจากมือเราลงไปทำให้ปลาเค้าตายได้ค่ะ
แมวน้ำน่ารักมาก… เค้าอยู่ในห้องเย็นติดลบเลยนะคะ
อันนี้เป็นซากปลาฉลามค่ะเค้าดองเอาไว้ ถ้าจำไม่ผิดเป็นปลาฉลามที่ใหญ่มากมีน้ำหนักเยอะสุดๆ ที่เคยพบ
น้องลูฟวร์ บุฟเฟ่ต์ปูยักกกกกษ์ อร๊ากกกกกก ไม่ใช่นะลูก…
นกแพนกวินก็มีค่ะ…
ตู้แมงกะพรุนตู้นี้ถ่ายรูปสวยนะคะ
อันนี้เป็นวิวที่ถ่ายผ่านจากหน้าต่างด้านในพิพิธภัณฑ์ค่ะ ตรงนี้จะมีท่าเรือด้วยนะคะ “ท่าเรือ Santa Maria”
ออกมาจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าแล้ว เด็กๆ อยากนั่งชิงช้าสวรรค์ แม่ก็จัดปายยยค่ะลูก…
ก็จบทริปวันแรกแล้วนะคะ หลังจากลงจากเครื่องบินครอบครัวแอร์ ก็เที่ยวชิวๆ ไม่รีบก็จะประมาณนี้ค่ะ… หลังจากที่ลงจากชิงช้าสวรรค์นะคะ แอร์ก็พาเด็กทานข้าวเย็น และนั่งรถไฟเดินทางกลับบ้านพัก และพักผ่อนกันค่ะ
DAY 2: พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน เมืองโกเบ [ Kobe Anpanman Children’s Museum & Mall ] → ป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมน [ Glico Man Neon Billboard ] → ย่านโดตมโบริ [ Dotonbori ] แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโอซาก้า
มาโกเบพาเด็กๆ มาดูอังปังแมน จากนั้นก็ไปกินเนื้อกัน…
ถึงแล้วค่ะ เมืองโกเบ พวกเรานั่งรถไฟกันมา…
ดีดี้ตื่นตาตื่นใจมาก… ตู้กดน้ำในฝัน อยากมีไว้ที่บ้านดีดี้กล่าว….
ระหว่างทางหลังจากออกจากสถานีรถไฟจะมีตัวอังปังแมนตลอดทางเลยค่ะ เก็บแต้มถ่ายรูปกันไปค่ะ
ไบกินแมน [ Baikinman – Bacteria Man ] รู้จักกันไหมเอ่ย?
สำหรับทริปวันนี้บ้านแอร์ไม่รีบเช่นเคย… กว่าจะได้ออกจากบ้านที่เราพักกันก็จะเที่ยงกันแล้ว แม่แอร์ให้เด็กๆ นอนกันเต็มๆ เลย… มาถึงเมืองก็เกือบจะบ่ายละคะ…
ถึงแล้วจ้าพิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน เมืองโกเบ (Anpanman Children’s Museum & Mall Kobe)จากสถานีรถไฟเดินมาได้นะคะ ไม่ไกลเลย เดินเรื่อยๆ
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กค่ะ อังปังแมนเป็นการ์ตูนยอดนิยมในหมู่เด็ก ๆ ชาวญี่ปุ่น ภายในทั้งหมดจะจัดเป็นธีมของอังปังแมน มี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นส่วนของร้านค้าที่ขายสินค้า ของเล่น ของที่ระลึก ชั้นบนจะเป็นพิพิธภัณฑ์กึ่งสวนสนุกที่ให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันค่ะ
ที่ผ่านมาเห็นแต่รูปดีดี้ใช่ไหม จะบอกว่าตกบ่ายน้องลูฟวร์จะง่วง… ลูฟวร์หลับมาตลอดทางเลยจ้า… เพิ่งมาตื่นก็ตอนจะเข้าไปเล่นสวนสนุกนี่แหละ ถ่ายรูปมาหน้าตาก็จะยังไม่รับแขกเท่าไหร่ ต้องตื่นค่ะเพราะเค้าไม่อนุญาตให้นำรถเข็นเด็กเข้าไป… เราต้องต้องจอดรถเข็นเด็กไว้ข้างหน้าทางเข้าค่ะ มีที่รับฝาก
เข้ามาด้านในโซนสวนสนุกเด็กแล้วค่ะ
อารมณ์จะประมาณ คิดส์ซูน่า [ Kidzoona ] สวนสนุกในร่มบ้านเรา
ด้านในมีหลายโซนให้เด็กๆ ได้สนุกกันอยู่นะคะ น้องลูฟวร์มันมาก…
มีแสดงโชว์ด้วยค่ะ
ดีดี้ แม่แอร์ น้องลูฟวร์ คุณพ่อเป็นช่างภาพค่ะ…
ร้านขายของที่ระลึก ของฝาก… ถ้าแวะเข้าไปแล้วโดนแน่นอนค่ะ เสียตังชัวร์!
ดีดี้ขอมานั่งตกลูกบอลเล่นค่ะ…. ได้เต็มตระกร้าเลย ^__^
ถ่ายรูปวนไปกันค่ะ
แถ่นแทนแท๊นน…. ของชิ้นแรกไปช้อปมาออกมาแล้ว….
พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน เมืองโกเบ เด็กๆ ก็เที่ยวเล่นกันเพลินค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็พอได้อยู่นะคะ
มาถึงเมืองโกเบทั้งที มาแล้วก็ต้องกินเนื้อนะคะ…. เนื้อโกเบ คืออะไร? ตอบ เนื้อโกเบ คือ เนื้อชั้นสูงของวัวสายพันธุ์ทาจิมะ! เป็นสุดยอดเนื้อวัวที่เข้ารอบด้วยนะ
อ่ะ… เล่าต่อ.. ออกจากพิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมนก็ หิวแล้ว… แถวพิพิธภัณฑ์นะคะจะมี shopping mall และร้านอาหารให้เราเลือกเพียบเลยค่ะ ก็เลือกตามความสะดวกเลยนะคะอยากกินร้านไหนก็ดูเมนูหน้าร้านนั้น ครอบครัวแอร์ขอแวะร้านนี้ค่ะ “8 Eight Beef Steak&Hamburger” เพราะแม่หิวเนื้อ…
สั่งเนื้อแพร็บ….
จานนี้ เนื้อโกเบ เกรดพรีเมี่ยม สุดอร่อยนุ่มลิ้น ยิ่งทานยิ่งฟินมากจ้า…
พอทานอาหารเสร็จก็เดินเล่นแถวๆ พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมนอีกซักพักค่ะ เค้ามีชิงช้าสวรรค์ด้วยนะคะพาเด็กๆ ขึ้นกันได้
ระหว่างทาง… เจออนุสาวรีย์ของเอลวิส เพรสลีย์ด้วย…
เย็นมากแล้ว… นั่งรถไฟเข้าเมืองกันดีกว่าค่ะ ปลายทางของเราวันนี้ → ป้ายไฟนีออนกูลิโกะแมน [ Glico Man Neon Billboard ] → ย่านโดตมโบริ [ Dotonbori ] แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโอซาก้า
ถ้าไปเที่ยวในโอซาก้า (Osaka) ทุกคนต้องนึกถึง “ย่านโดทงโบริ” ไปโอซาก้าต้องไปที่นี่ด้วยนะคะไม่งั้นถือว่าไปไม่ถึงนะจ๊ะ สิ่งที่ต้องทำที่นี่คือถ่ายรูปที่ระลึกกับป้ายกูลิโกะ ชิมอาหารท้องถิ่น และช้อปปิ้งขนมของฝากค่ะ เกือบลืมอย่าลืมซื้อ ทาโกะยากิ ทานกันนะ เพราะเค้าเป็นอาหารยอดนิยมของโอซาก้าเลย
ร้านนี้ชื่อว่า “Kani Doraku (คานิโดระขุ)” เป็นร้านอาหารที่ขายปูเป็นหลักค่ะ เห็นป้ายปูตัวใหญ่แบบนี้ ปูสามารถขยับขาไปมาได้ด้วยนะ ครอบครัวแอร์เคยกินร้านนี้มาแล้ว แต่เป็นสาขาครั้งไปเที่ยวโตเกียวบอกเลยฟิน… รอบนี้ก็จะไปกินร้านนี้อีก… ไม่ไหวจะเคลียร์กับคิวยาวที่ต้องรอเกิน 2 ช.ม เลยขอบายไปค่ะ
นี่คือแลนด์มาร์กของโอซาก้า เลยนะคะ “ป้ายกูลิโกะ” ห้ามลืมถ่ายรูปที่ระลึกไปด้วยนะคะ
น้องดีดี้ขอ Checkin ค่ะ ถ่ายกับป้ายกูลิโกะละนะ
มีขาปูให้ทานระหว่างเดินด้วยนะคะ เดินไปชิมไปก็ได้ค่ะ อาหารเพียบ
ตอนกลางคืนบนถนนเส้นนี้นะคะ เราจะตื่นตะลึงกับแสงไฟมากๆ ค่ะ แถมคนเยอะมากๆ ด้วยนะคะ ถ้าพาเด็กๆ ไปแนะนำว่าควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ เด่วจะหลงทางกันนะคะ
ร้านปิ้งย่างเนื้อค่ะ
KOBE Beef ก็มีนะคะ
ครั้งแรก พาลูกไปญี่ปุ่น ขอดีดี้เลยตู้คีบตุ๊กตา… ผลคือได้มา 2 ตัวเลยสำหรับ 2 ครั้งแรก…. ติดใจคุณลูกมากจนแม่ต้องควักเงินรัว ๆ แต่หลังจากตุ๊กตา 2 ตัวนี้ก็คีบไม่ได้แล้วค่ะ
หลังจากที่ครอบครัวแอร์เดินชมบวกชิมในย่าน “ย่านโดทงโบริ” จุดที่ต้องมาของโอซาก้าแล้ว… ดูเวลาก็ค่อนข้างจะค่ำมากแล้วค่ะ แอร์เลยพาเด็กกลับที่พักเหนื่อยมาทั้งวันละ… ไว้ลุยกันต่อในทริปของวันพรุ่งนี้…
สำหรับ BLOG นี้แอร์ขอจบทริปตะลุยโอซาก้าที่ DAY 2 ก่อนนะคะ
ติดตาม EP. 2 ตอนต่อไปที่เมืองๆ อื่นได้ที่ลิ้งนี้เลยจ้า
https://thelovelyair.com/หอบลูกเที่ยวโอซาก้า-universal-studio-kuromon-ich/
- มีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูก การเตรียมตัวไปเที่ยว พาลูกไปญี่ปุ่น หรืออื่นๆ สามารถสอบถามแอร์ได้ที่เพจค่ะ
ติดตามครอบครัวแอร์ได้ที่ : https://www.facebook.com/thelovelyair/
Comments are closed.