เทคนิคเติมพลังสมอง 3 ช่วงวัย สร้างการเรียนรู้ไม่สิ้นสุดสำหรับลูกน้อย กับ Foremost School Smart
การเป็นคุณแม่คุณพ่อ เป็นธรรมดาที่เคยมีบ้างที่รู้สึกกังวลว่า ลูกน้อยจะทานอาหารครบถ้วนหรือไม่ กลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และคิดอยู่เสมอว่าโภชนาการที่ดีนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถพัฒนาศักยภาพของลูกได้ มาดูกันว่าเทคนิคตัวช่วยเติมพลังสมอง 3 ช่วงวัย กับ 5 ขั้นตอน สร้างการเรียนรู้ให้ลูกน้อยไม่มีสิ้นสุดนั้นมีอะไรสำคัญๆ กันบ้างค่ะ
การสร้างกระบวนการรู้คิดของเด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียน การคิดนั้นเป็นกระบวนการทำงานของสมองที่มีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งมาจากการฝึกฝน การฝึกให้สมองสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นเรื่องของการคิด เพราะถ้าหากสมองคิดเป็นก็เรียกได้ว่าคน ๆ นั้นเป็นคนที่มีศักยภาพมีประสิทธิภาพใช่ไหมค่ะ การคิดเป็น คือการทำงานของสมองที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ว่าเราจะต้องจัดการเรียนรู้หรือจัดสิ่งกระตุ้นให้มากพอที่สมองจะได้ฝึกคิด การคิดสามารถพัฒนาและฝึกฝนได้ การคิดและการเรียนรู้มีการปรับเปลี่ยนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมมาโดยตลอด กระบวนการรู้คิดนั้นจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยคุณภาพของสมอง รวมถึงโภชนาการที่เหมาะสมและกิจกรรมกระตุ้นการพัฒนาการตามช่วงวัยด้วยค่ะ
การเรียนรู้ในวัยเยาว์ คุณครูและคุณพ่อคุณแม่อย่าพลาดโอกาสที่จะพัฒนาสมองเด็กหรือลูกน้อยเพื่อการเรียนรู้ที่ดีนะคะ จากการศึกษา อาจารย์ ดร. วสุนันท์ ชุ่มเชื้อ บอกไว้ว่า การพัฒนากระบวนการรู้คิดในเด็กควรทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3-12 ปี ค่ะ
กระบวนการรู้คิดมีทักษะอยู่ 5 อย่างด้วยกันค่ะ
- การพัฒนา IQ เพื่อการจดจำที่ดี
- การยับยังชั่งใจ
- การรู้เวลาและหน้าที่ สามารถเปลี่ยนกิจกรรมหนึ่งไปทำกิจกรรมหนึ่งได้โดยไม่มีข้อติดขัด
- มีความตั้งใจจดจ่อในสิ่งที่ทำ
- รู้จักวางแผนและการจัดการ
นอกจากกระบวนการรู้คิดแล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ ลูกคิดบวกคิดดี สร้างพัฒนาการของลูกด้วย การกระตุ้นพัฒนาการเพื่อพัฒนาเพื่อการพัฒนาสมอง มี 5 ขั้นตอนค่ะ
- การสร้างพื้นฐานอารมณ์
- ส่งเสริมประสาทและการเคลื่อนไหว
- การเรียนรู้ตัวเอง
- การเรียนรู้ผู้อื่น
- การส่งเสริมกระบวนการรู้คิดเพิ่มศักยภาพสติปัญญาและการวิเคราะห์
สมองและความจำดี ….. เริ่มต้นที่ “ อาหาร ” อาหารสมองที่นักโภชนาการแนะนำและถือเป็นสุดยอดสารอาหารเพิ่มศักยภาพการพัฒนาสมองของลูกวัยเรียนคือ
- กรดไขมัน DHA
- โอเมก้า 3 6 9
- วิตามิน B6
- ไอโอดีน
- ธาตุเหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ แคลเซียม วิตามิน A C E วิตามิน B1 และ B2 รวมทั้งโฟเลตและแพนโทเทนิก
สมองต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วนเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการจดจำข้อมูลต่างๆ เด็กที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโตแล้ว ในระยะเริ่มแรกเด็กจะขาดสมาธิ และเลี้ยงยากค่ะ อาหารบำรุงสมองสำหรับเด็กวัย 3-12 ปี มีในอาหาร 5 หมู่ เช่น ปลาทะเล ปลาทู ปลาแซลมอน ไข่ ผักใบเขียว ถั่ว ตับ ส้ม มะละกอ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน และผักที่มีสีสันอย่างเช่น พริกหวาน ฟักทอง แครอท
อาหารบำรุงสมองที่กล่าวมาข้างต้นนั้นคุณค่าโภชนาการทั้งหมด ก็มีอยู่ครบใน “นม” หนึ่งกล่องค่ะ เด็กๆ ควรดื่มนมเป็นประจำทุกวัน นมเป็นอาหารเสริมพลังสมอง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกสำหรับครอบครัวยุคใหม่ค่ะ ยิ่งดื่มนมที่มีส่วนผสมของ DHA ยิ่งดีต่อลูกน้อยด้วยค่ะ โภชนาการที่มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยคือ DHA ที่เป็นสารอาหารที่มีผลต่อการพัฒนาสมอง มีส่วนช่วยให้ลูกมีสมาธิ ความจำและการคิดวิเคราะห์ค่ะ
ดื่ม “นม” เพิ่มพลังสมอง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “นม” เป็นอาหารที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราควรจะได้รับ ด้วยเหตุนี้ทุกโรงเรียนในระดั
ช่วงวัยสำคัญของเด็กที่พ่อแม่ไม่ควรพลาดโอกาสทองในการพัฒนาสมองลูกมีอยู่ 3 ช่วงคือ 3-6 ปี 6-10 ปี และ 10-12 ปี ขั้นตอนพัฒนาทักษะการเรี
- ช่วง 3-6 ปี ใช้เทคนิค เล่นบทบาทสมมติและเล่านิทาน
- ช่วง 6-10 ปี ใช้เทคนิค เล่านิทานและชวนท่องเที่
ยวสำรวจโลกกว้าง - ช่วง 10-12 ปี ใช้เทคนิค ชวนลูกเที่ยวผจญภัยและให้สะท้
อนอารมณ์ความรู้สึก เช่น การออกค่ายอาสา
การเลือกหนังสือนิทานคุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่เด็กจะได้รับด้วยนะคะ ในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กด้วย เช่น สอนให้รู้จักคำเรียกชื่อสิ่งของต่างๆ เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกพัฒนาความคิด จินตนาการ ให้ความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก มีความตลกขบขันให้ความสนุกสนาน ช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวเด็ก เมื่อเปรียบเทียบตนเองกับตัวละคร เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจากโฟร์โมสต์และติดตามสาระดีๆ เพื่อการเรียนรู้ต่อเนื่องกั
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดฟรีคู่มื
Comments are closed.