สำหรับคุณพ่อคุณแม่(ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก๋า) ก็คงเลี่ยงสังคมในยุคดิจิตอลไม่ได้ เพราะรอบๆ ตัว ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็ถูกรายล้อมด้วยเทคโนโลยีแบบพกพา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท๊บเล็ต ที่แทบจะพูดได้ว่ามีกันทุกครอบครัว และด้วยปัจจุบันนี้คุณพ่อคุณแม่ก็มีเวลาให้ลูกน้อยลง หากมีเวลาอยู่ด้วยกันบางครั้งก็อาจจะต้องทำงาน หรือง่วนอยู่กับธุระต่างๆ จนทางออกในการเลี้ยงลูกจึงตกไปอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้
เคยได้ยินหรือเห็นผลการวิจัยนี้มาบ้างหรือเปล่าคะ? ว่า…
เด็กยุคนี้ติดมือถือ-แท๊บเล็ตมาก เล่นเกิน 6 ชม.ต่อวัน! (*เด็กอายุ 5-16 ปี) แล้วยังเป็น Multitask หรือพวกเล่นหลายหน้าจอในเวลาเดียวกันอีก จะมองอย่างไรก็มีแต่ข้อเสียนะคะ เจ้าแท๊บเล็ตเนี่ย แต่เรายังพอมีความหวังอยู่ค่ะ! ลองตามมาอ่านไอเดียดีๆ เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการทาง IQ และ EQ ให้กับลูกๆ ของเรากันดีกว่าค่ะ
1. สอนให้ลูกรู้ถึงข้อดี-ข้อเสีย
ก่อนที่จะเริ่มให้ลูกเล่นมือถือ คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นครูที่คอยแนะนำอยู่ข้างเขาได้ค่ะ สอนและบอกเขาว่าพวกมือถือ แท๊บเล็ตมีข้อดีให้การช่วยพัฒนาลูกได้ หากลูกเล่นเกมหรือแอพที่ดี เช่น แอพคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แอพฝึกทักษะการคำนวณ หรือแม้แต่แอพดูหนังดูการ์ตูนที่เหมาะกับช่วงวัยของลูก และที่สำคัญก็ต้องบอกลูกว่า การใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือ แท๊บเล็ตนั้น อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ให้ระวังภัยต่างๆ เช่น มิจฉาชีพที่แฝงตัวมา ระวังเรื่องการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไปจนถึงการเสียเงินทางออนไลน์ ค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอนวันละนิด เพื่อในอนาคตที่ลูกโตขึ้นจะมีวิจารณญาณในการใช้สื่อเหล่านี้
แล้วก็อย่าลืมคัดสรรเกม-แอพลิเคชันที่เหมาะกับวัยของเขา แอพลิเคชัน ส่วนใหญ่เวลาดาวน์โหลด เจ้าของแอพเขาจะบอกว่า เหมาะกับช่วงอายุเท่าไหร่ค่ะ แต่ที่สำคัญคือ “การให้เวลาอยู่กับลูก” นะคะ ในวันๆ หนึ่ง ลองจัดสรรเวลาให้ดี อยู่กับลูก เล่นกับลูก เลี้ยงดูเขาให้ใกล้ชิด จะเล่นเกม ดูการ์ตูน อ่านหนังสือหรือพาไปเที่ยว เราก็จะได้ช่วยกลั่นกรองความเหมาะสมและคอยดูแลลูก เสริมความใกล้ชิดได้ด้วยนะคะ
2. ให้ลูกดูการ์ตูนสาระดีบนเว็บ หรือแอพที่ไว้ใจได้
แม่แอร์ได้มารู้จักกับ “iflix” ไอฟลิกซ์ www.iflix.com
ไอฟลิกซ์ คืออะไร? ไอฟลิกซ์ คือผู้ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์ออนไลน์ บอกตามตรงว่าเดี๋ยวนี้พฤติกรรมของผู้ชมในการดูหนัง ดูทีวีในยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก่อนตัวเองเคยดูหนังจากแผ่น VCD DVD มีเรียงกันเป็นตู้ๆ แต่เดี๋ยวนี้ที่บ้านไม่มีเครื่องดู VDC DVD แล้วค่ะ บางทีดูทีวี ดูหนัง ก็ดูผ่านออนไลน์ คือจะบอกว่าพฤติกรรมมันก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยอะนะ เทคโนโลยีนี่ก็มีผลต่อเรามากจริงๆ แต่มันก็ใช่สำหรับมนุษย์แม่ยุคใหม่แบบแม่แอร์มาก เดี๋ยวนี้จะเลือกหนังเลือกการ์ตูนให้ลูกก็สามารถค้นหาผ่านอินเตอร์เนต ง่ายมากเพียงแค่คลิ๊กเท่านั้นเอง เข้าเรื่องกันเลยละกันคือจริงๆ แม่แอร์อยากจะมาแชร์และแนะนำหนังเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก เป็นหนังที่เด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่จะได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกัน รับรองว่าหนังที่แนะนำจะสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวมากๆ ค่ะ
หากอยากเปิดการ์ตูนนั่งดูกับลูกในวันว่าง แต่ยังไม่รู้จะดูเรื่องอะไร แม่แอร์มีการ์ตูน 4 เรื่องมาแนะนำใช้ชมกัน
PEPPA PIG
การ์ตูนหมูชมพู เป็นการผจญภัยของเพ็ปป้า พิคกับครอบครัวและผองเพื่อนๆ เพ็ปป้า พิค มีเพื่อนสัตว์หลากหลายชนิด ดูเผินๆจะดูคล้ายมนุษย์ มีบุคลิกเป็นสัตว์แบบที่เรารู้จักกันดี การผจญภัยของเพ็ปป้าเหมาะมากกับเด็กๆ ที่ชอบดูการ์ตูน เจ้าหมูชมพู เพ็ปป้า พิค เรื่องนี้เล่าจะเรื่องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ก็เป็นการสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้กันง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน รับรองว่าเมื่อเด็กๆ ได้ดูแล้ว นอกจากความสนุกสนานของแต่ละตอนแล้ว มีข้อดีคือช่วยสอนเด็กๆ ได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่ที่อยากส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษให้ลูกๆ แนะนำเลยค่ะ
Stand By Me Doraemon โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป
เป็นเรื่องราว 7 ตอนที่ดีที่สุดในระยะเวลา 45 ปี ของโนบิตะและโดราเอมอน ตั้งแต่เริ่มแรกที่โดราเอมอนและเซวาชิเหลนของโนบิตะ เดินทางมาหาจากอนาคตเพื่อร่วมกันแก้ไขอดีตของโนบิตะ ซึ่งหากไม่ทำอะไรโนบิตะในอนาคตต้องแต่งงานกับไจโกะจนกระทั่งล้มละลาย เป็นปัญหากับทายาทต่อไป เซวาชิจึงฝากให้โดราเอมอนหุ่นยนต์แมวสีฟ้าคอยดูแลช่วยเหลือโนบิตะ ด้วยของวิเศษต่างๆ จากอนาคต ตามมาด้วยเหตุการณ์ที่น่าประทับใจที่สุดในช่วงเวลาที่โนบิตะและโดราเอมอนมีร่วมกัน 7 ตอนมารวมไว้ในภาพยนตร์ เรื่องโดราเอมอนนี้พากย์เสียงภาษาไทยโดยทีมพากย์เดิมที่ทุกคนคุ้นเคย นำทีมโดย น้าต๋อย เซมเบ้ Stand By Me Doraemon เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ข้อดีของเรื่องนี้คือช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กในเรื่องของจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ที่สามารถนำไปต่อยอดในชั่วโมงกิจกรรมที่โรงเรียนได้ด้วยนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะวิชาศิลปะวาดภาพ หรือการประดิษฐ์ต่างๆ ที่เด็กๆ สามารถนำเอาไอเดียสิ่งประดิษฐ์จากการ์ตูนมาใช้ได้ด้วยค่ะ
BEN 10
เบ็น เท็นนีสัน เด็กชายวัยสิบขวบ ค้นพบอุปกรณ์วิเศษที่สามารถเปลี่ยนเขาจากอายุสิบขวบให้เป็นฮีโร่ต่างดาวได้ถึงสิบรูปแบบที่ความสามารถพิเศษไม่ซ้ำกัน เบ็น ปู่แม็กซ์และลูกพี่ลูกน้อง เกว็น จึงช่วยกันปกป้องโลกจากปีศาจร้าย แต่ในแต่ละครั้งที่ปราบเหล่าร้ายก็ทำให้มีเด็กที่มีพลังวิเศษเกิดขึ้นใหม่ด้วย
Read Thai (ท้าให้อ่าน)
รายการเกมสนุกสนานที่มาพร้อมกับการอ่าน แต่ละสัปดาห์จะมีน้องๆประถมต้นหรือ ประถมปลายจำนวน30คนมารวมพลังช่วยกันตอบคำถามที่ได้รับคำท้าให้อ่าน เพราะการอ่านไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือเพราะคนเราจะรู้รอบด้าน ถ้าอ่านรอบตัวมีความหมายมากพอสำหรับลูก
3. การดูทีวีหรือภาพยนตร์กันระหว่างคนในครอบครัว จะบอกว่าการดูทีวีหรือภาพยนตร์ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เทคโนโลยีในด้านดีมาช่วยเสริมพัฒนาการของลูกได้เช่นกันนะคะ ในปัจจุบันรายการโทรทัศน์ หนังภาพยนตร์จำนวนมาก จะมุ่งเป้าไปที่เด็กๆ ซึ่งการนำเสนอส่วนมากของรายการต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นช่องทางในการเรียนรู้ เป็นการศึกษา เช่น สื่อการเรียนการสอนต่างๆ ABC นับเลข นับจำนวน หนังการ์ตูน นิทานเพลง เมื่อการเรียนรู้ของเด็กได้มีการเปิดกว้างขึ้น พร้อมรับสื่อจากทีวีและภาพยนตร์แล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงอย่างมากคือ การเลือกรับสื่อ รายการอะไร หนังอะไร อะไรควรดู อะไรไม่ควรดู ระยะเวลาในการดู เพื่อให้แก่ลูกน้อยนำมาใช้ประโยชน์อย่างถูกต้อง คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบต่อการเลือกรับและเลือกเสพสื่อของลูกด้วย
4. ให้ลูกๆ ได้เล่นกับของเล่นอื่นด้วย
นอกจากจะให้ลูกได้เล่นมือถือ แท๊บเล็ตได้ตามใจแล้ว การให้เพื่อนๆ ของลูกมาร่วมเล่นแท๊บเล็ตด้วยกัน ก็ช่วยให้ลูกได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนได้อีกด้วย แต่ทางที่ดีควรให้เด็กๆ ได้เล่นซนกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นที่เครื่องเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน เล่นกองทราย วิ่งไล่จับกับเพื่อนๆ หรือการเล่นกิจกรรมที่เสริมสร้างสมอง เช่น การเล่นพัซเซิลเกมต่างๆ รวมทั้งการเล่นดนตรีด้วยค่ะ เด็กๆ บางคนอาจจะค้นพบความสามารถ ความชอบ และความฝันจากกิจกรรมหรืองานอดิเรกเหล่านี้ก็ได้นะคะ
สุดท้ายนี้แม่แอร์อยากจะฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ในยุคนี้ไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวนั้น จะเป็นพื้นฐานด้านจิตใจที่สำคัญของลูกและเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต การเลี้ยงลูกไม่ใช่แค่ให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันในสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมออย่างนี้ เราพ่อแม่ต้องคิดที่จะเลี้ยงดูลูกอย่างไรให้จิตใจแข็งแรงด้วย…