จากซีรี่ย์ที่กำลังเป็นกระแส “สงครามส่งด่วน” จะเห็นว่า เสี่ยวหยู ผู้เป็น CFO นั้นสำคัญมาก ในโลกของธุรกิจ CFO (Chief Financial Officer) คือคนที่ถือกุญแจสำคัญของบริษัท ยิ่งเป็น สตาร์ทอัปที่มีทุนจำกัด ยิ่งต้องพึ่งพา CFO ที่วางแผนการเงินได้เฉียบ เพราะสถิติบอกว่า กว่า 90% ของสตาร์ทอัปล้มเหลว เพราะบริหารการเงินไม่ดี — แล้วครอบครัวล่ะ? จริงๆ ก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ ถ้าไม่มีใครลุกขึ้นมาวางแผนการเงินให้ตัวเอง ให้ลูก และให้พ่อแม่ การเงินของบ้านก็อาจพังไม่ต่างจากสตาร์ทอัปที่ไม่มี CFO ฝีมือดีเลย
ถ้าคุณเป็น CFO ประจำบ้าน คุณจะทำอะไรได้บ้าง?
1. วางแผนอนาคตได้แบบไม่ต้องลุ้นดวง
เพราะคุณรู้ว่า “เงิน” ไม่ควรเป็นเรื่องของโชค แต่เป็นเรื่องของการวางแผนอย่างมีกลยุทธ์
-
รู้ว่ารายได้ของครอบครัวแต่ละเดือนต้องแบ่งใช้–เก็บ–ลงทุนเท่าไร
-
วางแผนการศึกษาลูกล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกังวลตอนลูกสอบติดมหาวิทยาลัย
-
ตั้งเป้าหมายระยะสั้น-ระยะยาว เช่น ซื้อบ้าน ผ่อนรถ เที่ยวญี่ปุ่น หรือเกษียณอย่างมีเงินใช้
-
ใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างประกัน หรือกองทุน ได้อย่างถูกจังหวะ
🧠 ตัวอย่าง: รายได้ครอบครัว 40,000 บาท คุณสามารถออกแบบได้ว่า 20% เป็นเงินเก็บ, 30% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 20% จ่ายเบี้ยประกันสุขภาพให้ทุกคนในบ้าน ฯลฯ
2. ลดความเสี่ยงให้คนในบ้าน
เพราะชีวิตไม่แน่นอน แต่แผนการเงินที่ดีสามารถ “กันล้ม” ได้
-
ทำประกันสุขภาพให้ทั้งครอบครัว เพื่อไม่ต้องกังวลค่ารักษา
-
ทำประกันชีวิตให้หัวหน้าครอบครัว เพื่อให้คนที่อยู่ยังมีทุนตั้งตัว
-
วางแผนทุนสำรองเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ถูกเลิกจ้าง เจ็บป่วยกะทันหัน
⚠️ ตัวอย่าง: คุณแม่วัย 40 ป่วยมะเร็งกระทันหัน ถ้ามีประกัน CI120 รับเงินหลักล้านทันที พร้อมยังคุ้มครองโรคอื่นต่อ และไม่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม
3. ทำให้ “เงินทำงานแทนคุณ” ไม่ใช่คุณต้องทำงานตลอดชีวิต
CFO ประจำบ้านไม่ใช่แค่คนประหยัดเก่ง แต่คือคนที่รู้จักใช้ระบบให้เงินเติบโต
-
ใช้ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือวางแผนภาษีได้อย่างฉลาด
-
เข้าใจการใช้เงินผ่อนบ้านแบบไม่ให้ดอกเบี้ยบาน
-
วางแผนให้คนในบ้านมี Passive Income เมื่อถึงวัยเกษียณ
-
เลือกความคุ้มครองประกันที่เหมาะกับแต่ละช่วงวัยของสมาชิกในบ้าน
📈 ตัวอย่าง: ทำประกันสุขภาพ Enjoy Health Extra เบี้ยไม่ถึง 30,000 แต่คุ้มครองสูงสุด 5 ล้าน/ครั้ง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหลักแสน-หลักล้านในอนาคตได้
4. สร้างรายได้เพิ่ม แบบที่ “ส่งต่อได้”
นี่คือจุดแข็งของงานวางแผนการเงินที่หลายคนมองข้าม – มันเป็นงานเดียวที่คุณสามารถ “สร้างมรดกรายได้” ไว้ให้ลูกได้จริง
-
เมื่อคุณขายประกันแบบ Full Time คุณจะได้รายได้ต่อเคส เช่น 8,000 บาท
-
ขายเดือนละ 3 เคส รายได้ต่อเดือน = 24,000 บาท
-
ลูกค้าต่ออายุประกัน = รายได้ของคุณไหลเข้าทุกปี แม้ไม่ได้หาลูกค้าใหม่
-
รายได้นี้ สามารถโอนให้ลูกหลานได้ แค่ลูกสอบเป็นตัวแทนต่อจากคุณ
-
ลูกไม่อยากขายต่อ? ก็ยังมีรายได้จากพอร์ตของคุณอย่างต่อเนื่อง
-
ลูกอยากทำต่อ? ก็เริ่มจากฐานลูกค้าพันธมิตรเก่าๆ ของคุณ ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
👨👩👧 ตัวอย่าง: คุณสะสมลูกค้าได้ 100 คน รายได้ปีละหลายแสน พอคุณหยุดทำงาน ลูกสอบเป็นตัวแทนแทนคุณ = ได้รับรายได้ทันที และยังขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ด้วย
5. ออกแบบระบบการเงินในบ้านให้ยืดหยุ่น พร้อมรับทุกสถานการณ์
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณพร้อมรับมือ
-
ลูกอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ คุณมีทุนสำรอง
-
เกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น โควิดรอบใหม่ คุณมีเงินหมุนทัน
-
ต้องดูแลพ่อแม่ที่อายุมากขึ้น คุณมีประกันที่ช่วยแบกรับค่ารักษา
-
ต้องเปลี่ยนงาน หยุดงานชั่วคราว หรือทำธุรกิจใหม่ ยังมีพอร์ตประกันสร้างรายได้เสริมให้คุณได้
📌 ตัวอย่าง: พ่อแม่ของคุณอายุ 60 ปีแล้ว คุณทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมไว้ล่วงหน้า ลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่ออายุมากขึ้นอย่างมีแบบแผน
สรุปง่ายๆ: อยากเป็นเสี่ยวหยูประจำบ้านไหม?
แค่เข้าใจเรื่องการเงิน ก็สามารถวางแผนได้ทั้งชีวิต
และหากคุณอยากเริ่มต้น ก็สามารถเริ่มที่นี่เลย:
ไทยสมุทรเปิดโอกาสให้คุณอัปเกรดตัวเองแบบเสี่ยวหยู
ไม่ต้องจบการเงิน ไม่ต้องมีประสบการณ์ ไม่ต้องใช้ทุนเริ่มต้น
✅ สมัครฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
✅ อบรมฟรี มีทั้งติวสอบตัวแทน และเวิร์กช็อปการวางแผนการเงิน
✅ มีเงินเดือนให้ระหว่างเรียนรู้ สูงสุดถึง 30,000 บาท
✅ ได้รับการเทรนจากผู้เชี่ยวชาญจริง ไม่ใช่แค่หัวหน้าทีม
✅ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพ หรือแค่ใช้ดูแลคนในบ้านก็ยังคุ้มแล้ว
💬 สนใจสอบถาม / สมัครเป็นตัวแทนได้ที่
🔹 Facebook: m.me/thelovelyair
🔹 LINE: https://lin.ee/koAa1Yj
เพราะบ้านคุณไม่ควรมีแค่ “คนหารายได้”
แต่ควรมี “คนวางแผน” อย่างที่เสี่ยวหยูทำในบริษัท
และวันนี้ คุณก็ทำได้เหมือนกัน — แบบไม่ต้องรอใครอนุมัติเลยค่ะ 💼✨