การเดินทางในฝรั่งเศสนั้นสะดวกสบายมากค่ะ หากได้ไปเที่ยวฝรั่งเศสและมีแพลนไปเที่ยวเมืองต่างๆนอกปารีสออกต่างจังหวัดของฝรั่งเศสอยู่แล้วแนะนำว่าให้ใช้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือที่เรียกว่า TGV (Train à Grande Vitesse) รถไฟฟ้าความเร็วสูง TGV คนฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้บริการกันค่ะ เพราะทั้งเร็ว สะอาด ปลอดภัยและยังได้ชมวิวข้างทางอันสวยงามของฝรั่งเศสอีกด้วยค่ะ แถมยังตรงเวลาด้วยมากค่ะ ทริปนี้แอร์เก็บกระเป๋าออกจากโรงแรมประมาณสายๆ สบายๆค่ะโดยนั่ง Taxi ไปยังสถานี “Paris Gare de Lyon Train Station” และนั่งรถไฟฟ้า TGV จากเมืองปารีสไป Lyonใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงพอดีเป๊ะๆ ค่ะ แนะนำว่าการเดินทางข้ามเมืองในฝรั่งเศสให้ทำการซื้อตั๋วและ Booking จองล่วงหน้าไว้จะดีกว่าค่ะ เด่วแอร์จะรีวิวการเดินทางให้อีกทีนะคะ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
บรรยายกาศบนรถไฟ TGV ชั้น 1st Class ค่ะ เวลาออกจากสถานี Paris Gare de Lyon : time 13:53 pm. ถึงสถานีปลายทาง Lyon Part Dieu : time 15:56 pm. นั่งชมบรรยากาศข้างทางไปเรื่อยๆ นะคะ
ถึงแล้วค่ะ Lyon (ลียง) เป็นเมืองอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของฝรั่งเศสรองจากปารีส ประตูสู่เทือกเขาแอลป์ และเมืองนี้เค้าก็มีชื่อเสียงด้านทำอาหารคือ เป็นเมืองที่ผลิต Celebrity chef มากมายค่ะ เมืองนี้มีสัญลักษณ์เป็นสิงโต ชาวโรมันสร้างไว้ตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลและลียงยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ
เมื่อถึง Lyon ก็นั่ง Taxi จากสถานีรถไฟ มาที่โรงแรม ค่าTaxi 10 ยูโร จากสถานีไม่ไกลนักค่ะ พักที่โรงแรม BEST WESTERN Hotel Charlemagne ห้องพักถือว่าโอเคเลยค่ะ ราคาที่พักต่อคืนที่จองไว้ 5,600 บาท ต่อคืนค่ะ ไม่รวมอาหารเช้านะคะ (แนะว่าทานอาหารเช้าที่อื่นค่ะ ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้านอาหารเยอะ อร่อยกว่า) อยู่ที่ Lyon พักที่นี่ทั้งหมด 3 วัน 2 คืนด้วยกันค่ะ จากโรงแรมนี้สามารถเดินไปที่ห้างของเมืองได้ค่ะ ไม่ไกลใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที
จากโรงแรมที่พักเดินมาเรื่อยๆ ฝั่งเดียวกันจะพบ “Sainte-Blandine Church” เป็นโบสถ์เล็กๆ ค่ะ
จุดนี้เรียกว่า “Place Bellecour” แนะนำอีกเรื่องค่ะทริปนี้แอร์แทบจะไม่ได้กลางแผนที่เลยค่ะ ใช้ Google Map นำทางพาเที่ยวตลอดเลยค่ะ จะบอกว่าเวิร์ดมาก
~ I found love in Lyon ~
Célestins, Théâtre de Lyon เป็นโรงละครการแสดงเล็กๆ ค่ะ เค้าก็จะมีการแสดงตลอดเวลาคล้าย ๆ M Theatre บ้านเรา
มา “Lyon” ขอลองเปลี่ยนบรรยากาศขี่จักรยานชมเมืองดูค่ะ เมืองนี้เค้ามีเลนส์สำหรับจักรยานไว้ขี่ค่ะ แต่เพื่อความปลอดภัยเราต้องระมัดระวังในการขับขี่ด้วยนะคะ อากาศดีมากค่ะเหมาะมากสำหรับการขี่จักรยานชมเมืองมากๆ ไม่เหมือนบ้านเรา ใครที่รักการขี่จักรยานแนะนำว่าถ้ามาที่นี่ห้ามพลาดเลยค่ะ ที่นี่เค้าจะมีจุดให้เช่าจักรยานอยู่นะคะ ค่าเช่าคิดเป็นชั่วโมงค่ะ มีค่ามัดจำจักรยานอยู่ที่คันละ 150 ยูโร สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ค่ะ มีตู้ทำรายการสะดวกสบายมากค่ะ พอเราเอาจักรยานมาคืนตอนทำรายการคืนเค้าก็จะคืนในส่วนค่ามัดจำจักรยานค่ะ การคืนจักรยานเราไม่จำเป็นต้องมาคืนที่จุดเดิมเลยนะคะ เค้าจะมีจุดเช่าจักรยานและคืนจักรยานตลอดในบริเวณรอบเมืองและจุดท่องเที่ยวค่ะ
อีกอย่างที่เราควรทราบเมืองลียงของฝรั่งเศสเค้าออกตัวเลยว่าเค้ามีโครงการจักรยานสาธารณะที่ดีที่สุดในยุโรป (จาก Euro Test)
ภาพนี้คือ วิวแม่น้ำโซน (Saône River) จะเล่าให้ฟังว่า Lyon มีเสน่ห์ที่แบ่งฝั่งของเมืองออกเป็น 3 ค่ะ คือฝั่งเมืองเก่า เมืองใหม่ค่ะ ตัวเมืองลียงนั้นจะมีแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำโรน (River Rhône) และแม่น้ำโซน (Saône River)
ภาพนี้ติดเรต
แม่น้ำโรนมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตเทือกเขาแอลป์จะไหลผ่านใจกลางเมืองลียงพอดี ส่วนแม่น้ำโรนจะมุ่งสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิงของเมืองลียงนั้ยจะอยู่ระหว่างแม่น้ำทั้งสองค่ะ
น้ำพุกลางจัตุรัสกลางเมืองเก่า “Place des Terreaux” อยู่หน้าอาคารศาลากลางเมือง Lyon
มหาวิหารเซนต์จอห์น (Cathedral of Saint-Jean) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกในเมือง Lyon
บรรยายกาศหน้าโบสถ์ค่ะ พอดีมีเด็กมาเล่นลูกโป่งเลยขอแชะเก็บสักภาพ
“LE CUBE ORANGE” ตึกสีส้มสดโดดเด่น ในเมือง Lyon ตึกนี้ออกแบบโดย Dominique Jakob และ Brendan MacFarlane
ตึกนี้ว่าไปดูคล้ายชีสก้อนหนึ่ง ตึกนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโซน (Saône River) ตึกนี้เป็นตึก Office สำนักงานบริษัท Cardinal Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท real estate ค่ะ
ขอถ่ายสักรูปกับตึกเก๋ๆ ระหว่างทางมาที่ตึกนี้ ฝนตกปรอยๆ ตลอดเลยค่ะ
เดินเล่นไปได้เรื่อยๆ ค่ะ จะพบว่า Lyon มีซอกซอยเยอะเหลือเกิน การเดินก็เป็นวิธีที่ดีอีกเหมือนกันนะคะ ที่เราจะได้รับรู้เข้าถึงเมือง ชมสถานที่ท่องเที่ยวและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่เราพบเห็น Lyon มีร้านอาหารท้องถิ่นมากมายค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องเรื่องกินเลย ภาพนี้อยู่แถวๆ Rue De La Republique ย่านนี้จะมีร้านค้าและภัตตาคารมากมายค่ะ
เมือง Lyon เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากอีกเมืองหนึ่งนะคะ ถ้าใครเดินทางจะไปสู่แถบโพรวองซ์ แนะนำว่าให้แวะหยุดพักที่นี้ดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์ของ Lyon ดูค่ะ
เช้าวันใหม่ของวันที่ 2 ใน Lyon ตื่นเช้าหน่อยค่ะ ทานอาหารเช้าเสร็จก็เริ่มเดินทางไปอีกเมือง ทริปนี้จาก Lyon เช่ารถเอาค่ะ เราจะขับไปเมือง Annecy (อันซี) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.จาก Lyon แนะนำว่าถ้าไปเมืองทางแทบทางเหนือ North French Alps หรือ โรห์น-อัลป์ (Rhone-Alpes) ถ้าหากสามารถขับรถได้แนะนำให้เลือกเช่าขับรถไปค่ะ เราสามารถเดินทางโดยรถไฟได้เหมือนกันแต่ค่อนข้างยุ่งยากมากค่ะ ในเรื่องของเวลาคือเราอาจต้องทำเวลาตลอดเลยก็ต้องวางแผนกันพอสมควรค่ะ ถ้าเราพลาดรถไฟเที่ยวหนึ่งไปอาจจะต้องรอหลายชม. รถไฟก็ใช้เวลาพอๆ กันกับการเดินทางด้วยรถยนต์ค่ะ เร็วกว่านิดหน่อย (ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเดินทางออกจากเมืองไหนด้วยนะคะ) หรือถ้าหากว่าใครมีเวลาพอก็สามารถหาโรงแรมพักที่เมือง Anncey ดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์เมืองเก่าสักหน่อยก่อนก็ได้ค่ะ ทริปนี้เลยตัดสินใจเช่ารถ เพราะไม่อยากรีบเร่งและอยากชมเมืองกันแบบเต็มอิ่มค่ะ การเช่ารถเราต้องมี International Driving License นะคะ ต้องทำบัตรจากเมืองไทยไปค่ะ เวลาเช่ารถเค้าจะมี GPS นำทางมาให้ด้วยค่ะ ตลอดเส้นทางที่ขับรถไประหว่างเมือง ถนนหนทางถือว่าใช้ได้ค่ะ วิวข้างทางนั้นสวยงามมากได้บรรยากาศไปอีกแบบ ข้อมูลรายละเอียดการเช่ารถสามารถเข้าไปหาได้ที่ www.europcar.com ค่ะ แอร์จองผ่าน website นี้ โปรโมรชั่นราคาและรายละเอียดรับรถคืนรถต่างๆ อยู่ในนี้หมดค่ะ
Lake Annecy (Lac d’Annecy) ทะเลสาบที่นี้น้ำใสมาก ๆ สวยมากธรรมชาติมาก น้ำในทะเลสาบเป็นน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะมาจากเทือกเขา Alps!
วันที่มา Annecy นี้ อากาศดีมากค่ะ รูปนี้เป็นรูปที่เค้าอธิบายถึงทะเลสาบ Annecy ค่ะ
ที่ทะเลสาบเค้าจะมีบริการเรือหลากหลายแบบมากมายให้เช่าด้วยนะคะ และลองเดินรอบๆ ทะเลสาบชมบรรยากาศดูคะแล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้
ไหนๆ ก็มาถึง Annecy แล้ว เสียเงินล่องเรือถีบ รอบทะเลสาบเอาบรรยากาศกับเค้าหน่อย จะบอกว่าน้ำใสจริงๆ อากาศดีมากค่ะ
เมือง Annecy เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆ ของทางแถบโรห์น-อัลป์ (Rhone-Alpes) เป็นเมืองเก่าที่อยู่ติดทะเลสาบที่สวยงามมากและภายในเมืองเก่ายังมีคลองขนาดเล็กไหลผ่านเข้าไปในกลางเมืองด้วย จนได้รับสมญานามว่า “The Venice of Savoie” หรือ เวนิสแห่งเทือกเขาแอลป์ Anncey เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอต-ซาวัว (Haute-Savoie) อยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส และมีเขตแดนติดกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ในการเดินทางครั้งนี้แอร์ได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนสาว คุณนัทพร้อมกับสามีหนุ่มหล่อคุณจอร์ตที่เดินทางจากสเปนมาเที่ยวฝรั่งเศสกับเราในทริปนี้ด้วยค่ะ และยังอุทิศตนเป็นทั้งไกค์ ทั้งยังขับรถพาพวกเราเที่ยวชมเมืองต่างๆ อีกด้วยค่ะด้วย ต้องขอบคุณคุณเพื่อนทั้งสองมากๆ เลย
จุดนี้เป็นจุดถ่ายภาพที่นิยมกันมากใครๆ ที่ได้มาเยือน Anncey จะต้องมาถ่ายรูปที่จุดนี้ บริเวณนี้เป็นส่วนของเมืองเก่าและสมัยก่อนปราสาทนี้เคยไปห้องคุมขังหรือคุกมาก่อนค่ะ เรียกว่า “Palais de l’île” เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำ
Annecy เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าและธรรมชาติอันแสนสงบ งดงาม เป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่มากนักของฝรั่งเศส
สีสันของเมืองเค้าดูช่างเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ค่ะ นึกๆ ไปแอบติดตลกนิดหนึ่ง รึว่าเราอยู่ ปาลิโอ
หลังจากที่ชมบรรยากาศรอบๆ ของ Annecy มาสักพักละ กองทัพต้องเดินด้วยท้องใช่ไหมค่ะ ขอแวะเติมพลังก่อนละกัน เรามาทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารที่ชื่อว่า “L’Escargot” แค่ชื่อก็น่ากินแล้วค่ะ อ่านว่า เอสคาโก้ (escargot) คือ “หอยทาก” ค่ะ เป็นเมนูยอดนิยมของชาวฝรั่งเศสเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยค่ะ ถ้าใครได้ไปถึงฝรั่งเศส อย่าลืมชิมอาหารประจำถิ่นเมนูนี้สักมื้อนะคะ เดี๋ยวจะโดนหาว่าไปไม่ถึงฝรั่งเศสเอาค่ะ
มาฝรั่งเศสก็ต้องกิน “Escargot” นะคะ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ รสชาติเนี่ยสุด… ค่ะ อร่อยชอบมาก
มื้อกลางวันที่เมือง Annecy ค่ะ อาหารร้านนี้รสชาติโดยรวมถือว่าดีค่ะ แต่มีอยู่เมนูหนึ่งขอบอกเลยว่าอย่าสั่งทานนะคะ คือเมนูไส้กรอกค่ะ จากรูปคือภาพที่ 2 บนค่ะ รสชาติคงไม่ถูกปากคนไทยอย่างเราๆ แน่ๆ คือมันสาบมากกกค่ะ ทานไม่ได้เลยอย่าสั่งนะคะ
ที่ Annecy มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมายให้ท่านได้เดินเลือกชมค่ะ
หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ ภายในย่านเมืองเก่าที่แสนโรแมนติค ชอบตรงตึกทรงโบราณน่ารักสีสวยสด และหลังจากนั้นเราก็เดินทางออกจาก Annecy เมืองแห่งทะเลสาปด้วยความประทับใจค่ะ เมืองเล็กๆน่ารักๆ แห่งนี้ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยือนอีกครั้งค่ะ
ถึงแล้วอีกหนึ่งเมืองที่งดงามแห่งแคว้นโรห์น-อัลป์ ประเทศฝรั่งเศส “Chambéry” (ช็องเบรี) เป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่ของจังหวัดซาวัว (Savoie) และยังเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ยั่วยวนใจในเรื่องของความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมอีกเมืองหนึ่งค่ะ
สถานที่ที่น่าสนใจในเมืองนี้คือ “Château de Chambéry” ปราสาทของดุ๊กแห่ง Savoie ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 11
Chambéry นั้นเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกันกับประเทศอิตาลี หลังจากนั้นก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ใน ปี 1861
The Semi-Circular Tower
อีกสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดใน Chambery คือ Elephants Fountain น้ำพุช้าง ถูกสร้างขึ้นในปี 1838 เพื่อเป็นเกียรติแก่ Benoît de Boigne ที่รบชนะในอินเดีย อนุสาวรีย์น้ำพุช้างนี้ถูกปั้นขึ้นให้เหมือนกับขนาดจริงของช้างที่ได้ออกรบในศึกครั้งนั้นด้วยค่ะ ช้างสมัยนั้นตัวใหญ่มาก
อีกหนึ่งโบสถ์ใหญ่ของเมืองนี้ คือ Chambéry Cathedral เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิค อุทิศให้กับนักบุญ Saint François de Sales มหาวิหารถูกสร้างขึ้นในปี 1779
มหาวิหารแห่งนี้มีความโดดเด่นในเรืองของจิตรกรรมฝาผนังมากค่ะ คือลวดลายที่เห็นบนเพดานนั้นเค้าใช้การวาดแทนการแกะสลักลงไปจริงเอาค่ะ
จิตรกรรมฝาผนังวาดโดยศิลปินชื่อ Sevesi และ Vicario
สิ้นสุดเที่ยวแคว้นโรห์น-อัลป์ของตอนนี้แล้วค่ะไปเล่ามาหลายเมือง โรห์น-อัลป์ดินแดนประวัติศาสตร์ที่ยากต่อการลืมเลือนจริงๆ และเมืองก็งดงามมากจริงๆค่ะ ขอจบตอนที่ 2 ก่อนนะคะ เด่วเอาภาพมาเล่าต่อกันใหม่ค่ะ ยังมีอีกหลายเมืองค่ะ ตะลุยมาราธอนล่องใต้กันอย่างจุใจ ติดตามตอนต่อไปค่ะ