การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจไม่มั่นใจว่าสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ เพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนต่อลูกในท้อง แต่ความจริงแล้วการออกกำลังกายเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่คุณแม่ควรทำ เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และเป็นการยืดกล้ามเนื้อไปในตัวแล้ว การออกกำลังกายยังช่วยให้คุณแม่มีจิตใจผ่องใส และลดความเครียดอีกด้วย
นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว คุณแม่ยังสามารถหาวิธีผ่อนคลายจิตใจด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การฟังเพลง การอ่านหนังสือ หรือการทำงานศิลปะอย่าง การวาดรูป หรือการทำงานประดิษฐ์ เช่น การทำเปเปอร์มาเช่ ที่คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ การทำศิลปะงานฝีมือยังสามารถช่วยฝึกฝนให้คุณเเม่คล่องในการสอนลูกน้อยเพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างการทำเปเปอร์มาเช่ร่วมกับลูกน้อยเมื่อลูกโตขึ้นได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
- การออกกำลังกายช่วยให้คุณแม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีอารมณ์แจ่มใส เพราะเป็นการเรียกเหงื่อที่ไม่เหนื่อยมากจนเกินไป
- ช่วยในการยืดกล้ามเนื้อ ทั้งยังช่วยลดอาการปวดเมื่อย และตะคริวอีกด้วย
- สร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และยังเป็นการเตรียมพร้อมร่างกายในการเบ่งคลอดลูก
- กระชับสัดส่วน และช่วยให้การลดน้ำหนักหลังคลอดเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
การออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
แน่นอนว่าคุณแม่ต้องเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับลูกน้อยได้ โดยคุณแม่ต้องเลือกการออกกำลังกายเบาๆ และไม่หักโหมจนเกินไป นอกจากนี้ต้องเลือกชุดออกกำลังกายที่ไม่รัดจนเกินไป รวมไปถึงรองเท้าที่รองรับน้ำหนักได้ดีด้วย
- การเดินหรือวิ่งเหยาะๆ เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้ระบบโลหิตและระบบการหายใจทำงานได้ดี และยังเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกวัน โดยเลือกเดินวันละครึ่งชั่วโมง อย่าลืมจิบน้ำระหว่างการเดิน และหยุดพักทันทีถ้ารู้สึกเหนื่อยมากเกินไป
- การว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้คุณแม่ได้ขยับร่างกายทุกส่วนอย่างเป็นอิสระ จึงช่วยให้กล้ามเนื้อได้ขยับทุกส่วน และยังเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยอีกด้วย
- การเล่นโยคะ เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยในการยืดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อีกทั้งยังช่วยในการหายใจอย่างเป็นระบบ คุณแม่ควรเลือกท่าที่เน้นช่วงบริเวณท้อง สะโพก บั้นท้าย และต้นขา เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกอุ้งเชิงกราน
ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย
คุณแม่ควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย โดยไม่ควรเลือกกิจกรรมที่ออกแรงมาก หักโหมมากจนเกินไป หรือกระเทือนที่บริเวณหน้าท้อง โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ต้องก้มมากๆ นอกจากนี้คุณแม่ต้องวอร์มร่างกายก่อนการออกกำลังกายจริง เลือกสถานที่ที่อากาศถ่ายเท และถ้ามีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ปวดท้อง หายใจไม่สม่ำเสมอ หรือเลือดออก คุณแม่ต้องหยุดทันที และถ้าอากาศไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกน้อย
การออกกำลังกายไม่ใช่กิจกรรมของคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง รวมไปถึงจิตใจที่แจ่มใส ดังนั้นคุณแม่จึงควรออกกำลังกาย โดยเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย รวมไปถึงการดูแลอาหาร เพื่อให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ของคุณมีสุขภาพแข็งแรงไปพร้อมๆ กันด้วย
เครติดรูปจาก:
1. Nathan Rupert
2. Valentina Yachichurova